- 433 views
สช.ห่วงสถานการณ์โควิด-19 สั่นคลอนระบบบริการ หนุนภาคประชาชนหนุนช่วยจัดตั้งศูนย์พักคอยชุมชน หรือ Community Isolation ทั่วประเทศ จ่อใช้กลไกเครือข่ายสมัชชาสุขภาพจังหวัดขับเคลื่อนงานระดับพื้นที่ “นพ.ประทีป” ระบุ เตรียมขยาย “นครปฐมโมเดล” ต้นแบบการสานพลังทุกภาคส่วนในระดับจังหวัดสู้วิกฤตสุขภาพ
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ประสานความร่วมมือองค์กรภาคีเครือข่าย ภาคประชาสังคม และสุขภาพ หนุนเสริมการจัดระบบดูแลตนเองในชุมชน (Community Isolation : CI) ทั่วประเทศ โดยจะขับเคลื่อนร่วมกับเครือข่ายสมัชชาสุขภาพจังหวัด เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จากกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล ไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า แนวโน้มผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยยังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มากกว่าวันละ 1.5 หมื่นราย และผู้ป่วยหนักสีแดงเข้มกำลังสร้างปัญหาและสั่นคลอนระบบบริการสุขภาพ โดยเฉพาะเมื่อเชื้อโควิด-19 กระจายตัวจาก กทม. ออกไปตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศจากนโยบายกระจายผู้ติดเชื้อกลับจังหวัดภูมิลำเนาเพื่อให้เข้าถึงระบบบริการได้ง่ายขึ้นและลดภาระจากวิกฤตเตียงเต็มของกรุงเทพฯ และปริมณฑล ดังนั้นทุกจังหวัดจึงจำเป็นต้องเร่งจัดระบบการดูแลผู้ติดเชื้อขึ้นในชุมชน ทั้งรูปแบบ Home Isolation และ Community Isolation และจัดระบบข้อมูล การสื่อสาร การส่งต่อเชื่อมกับระบบบริการหลัก เช่น รพ.สนาม หรือ รพ.หลัก ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
![นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ](/sites/default/files/inline-images/press_64_07_27_2038t.jpg)
เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวต่อว่า การดูแลตัวเองที่บ้าน (Home Isolation) และศูนย์พักคอยในชุมชน Community Isolation เชื่อมกับระบบบริการ ที่รัฐบาลประกาศเป็นนโยบาย ถือเป็นแนวทางที่จำเป็นและถูกต้อง สอดคล้องกับสถานการณ์ของไทย และใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก และขณะนี้มีหลายพื้นที่มีการจัดระบบสนับสนุน Home Isolation หรือการจัดตั้ง Community Isolation ขึ้นมาแล้ว สิ่งที่ต้องเร่งทำต่อคือเพิ่มการมีส่วนร่วมและการจัดการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อช่วยผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่ยังตกค้างอยู่ตามบ้านเรือนและชุมชน
“สิ่งที่ สช. และภาคีเครือข่ายจะร่วมกันขับเคลื่อน คือการหนุนเสริมให้เกิดการจัดตั้งและบริหารศูนย์พักคอย หรือ Community Isolation โดยการจัดการของชุมชนให้เพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งนอกจากจะช่วยตัดวงจรการระบาดแล้ว ยังจะช่วยดูแลผู้ติดเชื้อและแก้ปัญหาคนตกค้างตามบ้านและชุมชนได้ โดยจะมีการทำงานร่วมกับเครือข่ายสมัชชาสุขภาพจังหวัด ภายใต้กระบวนการการมีส่วนร่วมระดับชุมชน” นพ.ประทีป กล่าว
![ปรีดา แต้อารักษ์](/sites/default/files/inline-images/press_64_07_27_2043.jpg)
นพ.ปรีดา แต้อารักษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ในระหว่างที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาด ทาง จ.นครปฐม ได้ลุกขึ้นมาสานพลังทุกภาคส่วนภายในจังหวัดเพื่อจัดกระบวนการรับมือวิกฤต โดยมีการจัดทำมาตรการของประชาชน เช่น ระบบข้อมูล การสื่อสาร การส่งต่อ การตั้งกองทุนจัดหาเครื่องวัดและถังออกซิเจน สนับสนุนการจัดตั้งดูแล Home และ Community Isolation การให้ความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจและอื่นๆ เพื่อหนุนเสริมการทำงานของภาครัฐและหนุนเสริมมาตรการของโรงพยาบาลจนเกิดเป็นความเข้มแข็งระดับพื้นที่ นครปฐมโมเดลจึงถือเป็นรูปธรรมที่น่าสนใจ เป็นต้นแบบการสานพลังที่ควรค่าแก่การขยายไปสู่พื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ
![ปรีดา แต้อารักษ์](/sites/default/files/inline-images/press_64_07_27_2039t.jpg)
“ขณะนี้ สช. ได้ร่วมกับภาคีสมัชชาสุขภาพจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อขยายและประยุกต์ใช้นครปฐมโมเดล เป็นต้นแบบการทำงานระดับพื้นที่ ตลอดจนถอดบทเรียนและองค์ความรู้จากการจัดทำ Home Isolation และการจัดตั้ง Community Isolation ใน กทม. และจังหวัดอื่น เพื่อประยุกต์ใช้ตามบริบทของแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศด้วย” รองเลขาธิการ คสช. กล่าว
![Community Isolation](/sites/default/files/inline-images/press_64_07_27_2042_0.jpg)
นพ.วิโรจน์ รัตนอมรสกุล นพ.สสจ. นครปฐม กล่าวว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ Home และCommunity Isolation จะกลายมาเป็นระบบสำคัญในการรับมือโควิด-19 ของชุมชนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง โดยหลักคิดสำคัญ คือการให้ชุมชนเป็นฐานในการบริหารจัดการและจัดบริการภายใต้การสนับสนุนของระบบบริการของรัฐ ตามที่ สช. และภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง คือเมื่อรู้ตัวผู้ติดเชื้อแล้ว จะต้องแยกให้เร็ว รักษาให้เร็ว และเฝ้าระวังผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ โดยมีอาสาสมัครในชุมชนเป็นกำลังสำคัญในการดูแล เชื่อมต่อกับหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลที่จะช่วยเติมความรู้ รวมถึงได้รับการสนับสนุนเรื่องของยา และอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น เช่น เครื่องวัดไข้ เครื่องวัดออกซิเจน
![วิโรจน์ รัตนอมรสกุล](/sites/default/files/inline-images/press_64_07_27_2044t.jpg)
“ทางนี้จะเป็นทางที่ดีที่สุดในสถานการณ์ที่หน่วยบริการรับไม่ไหว เราต้องเอาระบบบริการที่ไม่มีขีดจำกัดเข้าไปอยู่ในชุมชน เพราะผู้ติดเชื้อโควิดส่วนใหญ่จะเป็นสีเขียว มีอาการน้อย ชุมชนสามารถดูแลช่วยกันรักษาและให้กำลังใจผู้ติดเชื้อและประชาชนภายในชุมชนได้เลย หรือหากมีความจำเป็นก็สามารถส่งต่อไปรักษาตามระบบที่เชื่อมโยงกันอยู่แล้ว” นพ.สสจ.นครปฐม กล่าว
![วงประชุมการสร้าง Community Isolation](/sites/default/files/inline-images/press_64_07_27_2040_0.jpg)
อย่างไรก็ดี ทุกวันนี้การจัดตั้ง Community Isolation โดยชุมชน และการเข้าสู่กระบวนการดูแลใน Community Isolation ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังมีข้อจำกัด โดยเฉพาะเงื่อนไข กฎระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ รวมทั้งการสนับสนุนความรู้ เครื่องมือ และงบประมาณที่จำเป็นเพื่อเปิดช่องให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมได้มากและเร็วขึ้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม:
กลุ่มงานสื่อสารสังคม สช.
โทร. 02-8329141
![ภาคประชาชนหนุนตั้ง Community Isolation ทั่วประเทศ](/sites/default/files/images/contents/press_64_07_27_2041.jpg)