ผู้อำนวยการ WHO ปาฐกถาพิเศษ ‘สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ’ ครั้งที่ 13 คจ.สช.เคาะแล้ว! 2 ระเบียบวาระ - ไฟเขียวจัดงาน ‘ทีโอที’ | สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ Skip to main content

   คจ.สช. เคาะแล้ว! 2 ระเบียบวาระงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 13 “ความมั่นคงทางอาหารฯ และการบริหารจัดการวิกฤตสุขภาพแบบมีส่วนร่วมฯ” ไฟเขียว “ทีโอที” ถ.แจ้งวัฒนะ เป็นสถานที่จัดงาน 2 วันเต็ม รองรับการประชุมแบบ onsite-online เชื่อมต่อกับสมาชิกสมัชชาสุขภาพที่กระจายอยู่ทุกจังหวัด พร้อมเชิญรับฟังปาฐกถาพิเศษโดย รมว.สาธารณสุข - ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก
 
   ที่ประชุมคณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คจ.สช.) พ.ศ.2563-2564 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 มีมติเห็นชอบให้จัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 13 พ.ศ. 2563 ขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 ธันวาคม 2563 ณ หอประชุมใหญ่ อาคาร 9 ชั้น 2 บมจ. ทีโอที สำนักงานใหญ่ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร และเห็นชอบกำหนดให้มี 2 ระเบียบวาระที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาในงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งนี้ ประกอบด้วย 1. ความมั่นคงทางอาหารในภาวะวิกฤต 2. การบริหารจัดการวิกฤตสุขภาพแบบมีส่วนร่วม กรณีโรคระบาดใหญ่
 
   นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้มีปาฐกถาพิเศษที่ฉายภาพให้เห็นพลังการเผชิญหน้ากับวิกฤตสุขภาพและทิศทางต่อไปในอนาคตหลังโควิด-19 โดยองค์ปาฐกที่มีบทบาทการขับเคลื่อนงานในระดับประเทศและระดับโลก ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และ นายเทดรอส อัดฮานอม จีเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO)
 
   นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา ประธาน คจ.สช. พ.ศ.2563-2564 เปิดเผยว่า สาเหตุที่งานสมัชชาสุขภาพฯ ครั้งที่ 13 มีการพิจารณาเพียงแค่ 2 ระเบียบวาระ เนื่องจาก คจ.สช.ต้องการมุ่งเน้นไปยังประเด็นที่สำคัญ พร้อมใช้ประโยชน์ได้อย่างทันการณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง เนื่องจากสถานการณ์วิกฤตสุขภาพมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
 
   นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า รูปแบบการจัดงานมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับกรอบแนวทางการจัดงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติรูปแบบใหม่ ที่เน้นการกระจายการมีส่วนร่วมลงสู่พื้นที่ให้เครือข่ายสมัชชาสุขภาพทุกจังหวัดได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานชาติ และสอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 ลดการรวมคนจำนวนมากไว้ที่ส่วนกลาง โดยจะเชื่อมต่อถึงกันด้วยการประชุมแบบออนไลน์ทั่วประเทศ นอกจากนี้ คจ.สช.เห็นชอบให้จัดงานที่ “หอประชุมใหญ่ ทีโอที” ซึ่งมีความพร้อมทั้งสถานที่ การจัดการ และระบบเทคโนโลยีสนับสนุนที่ทันสมัย “สมาชิกสมัชชาสุขภาพฯ ที่จะร่วมพิจารณาและเสนอความคิดเห็นต่อระเบียบวาระจะมีด้วยกัน 2 ส่วน คือ ผู้เข้าร่วมภายในห้องประชุม (onsite) ประมาณ 300 คน และ ผู้เข้าร่วมแบบออนไลน์ (online) อีกประมาณ 300 คน รวมทั้งสิ้น 600 คน ส่วนภาคีเครือข่าย ประชาชนหรือผู้ที่สนใจทั่วไป สามารถร่วมติดตามรับชมได้ตามผังรายการออนไลน์ ผ่าน Facebook Live ตลอด 2 วันเต็ม ซึ่งมีการนำเสนอกิจกรรมที่หลากหลายที่จัดขึ้นในสัปดาห์สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ในช่วงวันที่ 2-14 ธันวาคม 2563 รวมอยู่ด้วย” นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าว
 
   นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับองค์ปาฐกที่จะมาปาฐกถาพิเศษภายในงานปีนี้ มีด้วยกัน 3 ท่าน ได้แก่ 1.นายอนุทิน ที่จะให้ข้อมูลถึงบทบาทการจัดการวิกฤตสุขภาพของประเทศ 2. นายเทดรอส ที่จะฉายภาพให้เห็นถึงประเด็นความร่วมมือในระดับโลกเพื่อต่อสู่กับวิกฤตทางสุขภาพ และ 3. ตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่สะท้อนให้เห็นพลังพลเมือตื่นรู้ พร้อมกันนี้ภายในงานจะมีการจัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนหัวข้อ “ก้าวผ่านโควิด สู่การรับมือวิกฤตสุขภาพ และการจัดการใหม่” รับฟังมุมมองจากวิทยากรจากภาคส่วนต่างๆ ที่จะช่วยชี้ทิศทางไปข้างหน้าของประเทศไทยในบริบทวิถีใหม่ (New Normal) นี้
 
   นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การจัดงานสมัชชาสุขภาพฯ ในปีนี้ นอกเหนือจากความร่วมมือในการจัดทำนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมแล้ว ยังต้องการชักชวนภาคีองค์กรต่างๆ เข้ามาร่วมเป็นเจ้าภาพ เพื่อเดินหน้าไปสู่กระบวนการสมัชชาสุขภาพฯ ที่เป็นของทุกคน ทุกภาคส่วน ไม่ใช่เพียงเป็นงานของสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ทั้งหมดนี้จึงนำมาสู่ธีมการจัดงานคือ “พลังพลเมืองตื่นรู้ ... สู้วิกฤตสุขภาพ”
 
   นพ.ประทีป กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งกิจกรรมที่นับเป็นการพลิกโฉมงานสมัชชาสุขภาพฯ คือการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Side Event) ในลักษณะ “สัปดาห์สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ” ที่เครือข่ายสมัชชาจังหวัดจะร่วมกันจัดขึ้นพร้อมกันทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยแต่ละพื้นที่จะมีการพูดคุยในเรื่องที่สอดคล้องกับระเบียบวาระทั้ง 2 ระเบียบวาระ แต่ประเด็นอาจจะแตกต่างกันไปตามสภาพปัญหาและบริบทของแต่ละพื้นที่ ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.samatcha.org หรือเฟซบุ๊กเพจ สช. สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
 

กลุ่มงานสื่อสารสังคม สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) 02-832-9147

รูปภาพ