นับถอยหลัง 30 วัน กับ Side Event 18 เวทีใหญ่ทั่วประเทศ ก่อนเปิดฉาก สมัชชาสุขภาพฯ ครั้งที่ 14 | สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
Audio file

นับถอยหลังอีกเพียง 30 วัน วาระสำคัญแห่งปีของการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมก็จะเปิดฉากขึ้น นั่นคืองาน สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 14 พ.ศ. 2564 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 ธ.ค. 2564 ณ หอประชุมใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) สำนักงานแจ้งวัฒนะ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ

นับถอยหลัง 30 วัน


สำหรับงานสมัชชาสุขภาพฯ ในปีนี้ คณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คจ.สช.) ซึ่งอยู่ภายใต้คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) หรือบอร์ดสุขภาพของประเทศไทย ได้สืบเนื่องประเด็นหลัก (ธีม) “พลังพลเมืองตื่นรู้ สู้วิกฤตสุขภาพ” ต่อจากปีก่อน เพื่อให้การพัฒนานโยบายสาธารณะฯ เป็นเอกภาพ และลงลึกในการแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับประเด็นการหารือ หรือ “ระเบียบวาระ” ที่เข้าสู่การพิจารณาในงานสมัชชาฯ ครั้งที่ 14 ยังคงมุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาอันเป็นผลพวงมาจากวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 โดยร่อนตะแกรงออกมาเป็น 3 ระเบียบวาระหลัก

ประกอบด้วย 1. การสร้างเสริมสุขภาวะสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนในวิกฤตโควิด-19 ที่มุ่งให้ทุกภาคส่วนร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดการจัดการปัญหาขยะ การจัดการสิ่งแวดล้อมในแหล่งท่องเที่ยว การพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจ BCG การจัดการสิ่งแวดล้อมในเมือง ตลอดจนเพิ่มพื้นที่สีเขียว ฯลฯ

2. การคุ้มครองการเข้าถึงบริการสุขภาพของกลุ่มประชากรเฉพาะในภาวะวิกฤตอย่างเป็นธรรม มุ่งทำให้เกิดระบบบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ เท่าเทียม ไม่มีการเลือกปฏิบัติ โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรเฉพาะ หรือกลุ่มเปราะบางที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการ

3. การจัดการการสื่อสารอย่างมีส่วนร่วมในวิกฤตสุขภาพ มุ่งให้ในภาวะที่เกิดวิกฤตทางสุขภาพ จะมีแผนการจัดการด้านข้อมูลข่าวสารที่เป็นระบบ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และความเชื่อมั่นให้ประชาชนทุกกลุ่ม สามารถปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง

ในฐานะผู้นำขององค์การสานพลัง นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ระบุว่า ระเบียบวาระทั้ง 3 ระเบียบวาระ ได้ผ่านกระบวนการพัฒนามาต่อเนื่องตลอดทั้งปี ผ่านการประชุมพิจารณาและให้ความเห็นชอบจากสมาชิกสมัชชาฯ และหน่วยงานภาคีต่างๆ ไปแล้ว 2 รอบ จึงมีความพร้อมที่จะเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการรับรอง และให้ฉันทมติอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ธ.ค.นี้
 

ประทีป ธนกิจเจริญ


ทั้งนี้ หาก 3 ระเบียบวาระนี้ได้รับฉันทมติ ก็จะเดินหน้าเข้าสู่การรับรองมติโดยคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อรับทราบ และแปรไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมต่อไป

“งานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 14 เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากการจัดงานครั้งก่อน โดยปีนี้ได้มุ่งขยายการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งประชาชนผู้ที่สนใจ กลุ่มคนด้อยโอกาส กลุ่มคนเปราะบาง เครือข่ายผู้ป่วย นักเรียน นักศึกษา เยาวชนคนรุ่นใหม่ ตลอดจนภาคเอกชน ที่ได้เข้ามาร่วมในกระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากพื้นที่กลางแห่งนี้ร่วมกัน” นพ.ประทีป ระบุ

อย่างไรก็ตาม งานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ไม่ใช่เพียงกิจกรรมเดียวหรือไฮไลท์เดียวของกระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะฯ เพราะนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกพื้นที่ทั่วประเทศจะมีการจัดงาน “กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้” หรือ Side Event ด้วย

เริ่มตั้งแต่พื้นที่เมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งมีความซับซ้อนสูง ก็ได้มีกำหนดเตรียมจัด สมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2564 ขึ้นในวันที่ 25 พ.ย. 2564 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ในธีม “พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ร่วมสร้างมหานครสุขภาวะ วิถีใหม่”

สำหรับ สมัชชาสุขภาพกรุงเทพฯ จะมีระเบียบวาระเข้าสู่การพิจารณาทั้งสิ้น 2 ระเบียบวาระ ได้แก่ 1. การสานพลังพัฒนาพื้นที่สาธารณะเพื่อสุขภาวะของชุมชน มุ่งให้เกิดการจัดการพื้นที่สาธารณะอย่างมีส่วนร่วม ชุมชนสามารถเข้าถึงได้ และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาให้ กทม. เป็นเมืองแห่งสุขภาวะเพื่อทุกคน และ 2. การพัฒนาระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิในกรุงเทพมหานครเพื่อรองรับภาวะวิกฤติ มุ่งให้ทุกภาคส่วนร่วมกันสร้างความเข้มแข็งของระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ให้ประชาชนทุกกลุ่มที่มีความหลากหลายใน กทม. สามารถเข้าถึงได้อย่างทั่วถึง เป็นธรรม ทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤติ

Side Event 18 เวทีใหญ่ทั่วประเทศ


ขณะที่พื้นที่อื่นๆ ทุกภูมิภาคก็จะมีการจัด Side Event อันเป็นเวทีของการพูดคุยในประเด็นที่สืบเนื่องจากงานสมัชชาฯ หรือการดำเนินงานด้านสุขภาพและสุขภาวะในแต่ละมิติ โดยปี 2564 นี้ จะมีการจัดรวมกว่า 18 เวที ตั้งแต่ช่วงวันที่ 17 พ.ย. ไปจนถึงวันที่ 10 ธ.ค. 2564 โดยการขับเคลื่อนของคณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน (กขป.) 13 เขตทั่วประเทศ

พร้อมกันนี้ ยังจะมีการถ่ายทอดประเด็นต่างๆ ทั้งพื้นที่เกษตรปลอดภัย ความมั่นคงทางอาหาร การดูแลกลุ่มประชากรเฉพาะ การจัดการสิ่งแวดล้อม การใช้ธรรมนูญสุขภาพ ตลอดจนการสานพลังรับมือกับโควิด-19 ฯลฯ

ขณะเดียวกัน ยังจะมีการพูดคุยถึงการดำเนินงานขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ที่ได้ผ่านฉันทมติและนำไปสู่การปฏิบัติมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น มติ “รวมพลังชุมชนต้านมะเร็ง” มติ “การจัดการเชิงระบบสู่ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผลโดยชุมชนเป็นศูนย์กลาง” มติ “มาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน” มติ “วิถีเพศภาวะ: เสริมพลังสุขภาวะครอบครัว” และมติล่าสุด “การบริหารจัดการวิกฤตสุขภาพแบบมีส่วนร่วม กรณีโรคระบาดใหญ่”

นพ.ประทีป อธิบายว่า กิจกรรมทั้งหมดตลอด 1 เดือนนี้ จะเป็นภาพของการนำประสบการณ์ ความรู้จากการปฏิบัติ มาร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างสมานฉันท์พร้อมกันทั่วประเทศ เป็นการสานพลังสู่การพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ เพื่อปูทางก่อนที่เราจะมารวมตัวกันเป็นสักขีพยานอีกครั้งกับการกำหนดทิศทางด้านสุขภาพและสุขภาวะประเทศไทย ในวาระใหญ่ สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 14 ที่จะถึงนี้

“งานสมัชชาสุขภาพฯ ปีนี้ จะจัดในรูปแบบผสมผสาน (Hybrid Assembly) ด้วยการประชุมทางไกล (Online) และการจัดงานในสถานที่ (On-site) จึงขอเชิญภาคีหน่วยงานและประชาชนทุกคนมาร่วมติดตามกิจกรรมที่น่าสนใจทั้งหมดนี้ได้ ผ่านทุกช่องทางของสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)” เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ระบุ


 

รูปภาพ
ก่อนเปิดฉาก สมัชชาสุขภาพฯ ครั้งที่ 14