- 41 views
สช.-ภาคีจัดวงเสวนา ใช้กลไกการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ “HIA” เชื่อมร้อยการประเมินยุทธศาสตร์ฯ “SEA” สู่การออกแบบ-จัดทำแผนพัฒนาพื้นที่ “สงขลา-ปัตตานี” สอดรับความต้องการชุมชน ย้ำเป็นเครื่องมือหนุนทุกภาคส่วนนำไปใช้ ช่วยมองภาพอนาคต พร้อมประกอบการตัดสินใจในทิศทางการพัฒนา
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) พร้อมด้วยหน่วยงานภาคีเครือข่าย จัดเวทีเสวนา “การบูรณาการการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ (HIA) ในการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) เพื่อการจัดทำแผนพัฒนาเชิงพื้นที่” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA Forum) พ.ศ. 2566 ภายในงานสร้างสุขภาคใต้ ครั้งที่ 13 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ผศ.ดร.พงค์เทพ สุธีรวุฒิ รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเผยว่า ในการวางแผน นโยบาย ยุทธศาสตร์ กิจกรรมหรือโครงการพัฒนาใดๆ ไม่ว่าจะในระดับชาติไปจนถึงระดับท้องถิ่น จำเป็นที่จะต้องนำระบบการประเมินผลกระทบ (Impact Assessment: IA) เข้ามาใช้ เพื่อให้รู้ว่าสิ่งที่กำลังจะทำนั้น จะมีผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบอย่างไร ก่อนนำไปปรับปรุงเพื่อลดผลกระทบเชิงลบให้น้อยลงที่สุด เพิ่มผลกระทบเชิงบวกให้มากขึ้น หรือหากไม่สามารถลดผลกระทบเชิงลบได้ ก็จำเป็นจะต้องตัดสินใจว่าแผน นโยบาย หรือโครงการนั้น ควรจะดำเนินต่อไปหรือไม่
![พงค์เทพ สุธีรวุฒิ](/sites/default/files/inline-images/%E0%B8%9C%E0%B8%A8.%E0%B8%94%E0%B8%A3.%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%20%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B8%E0%B8%92%E0%B8%B4_0_0.jpg)
ผศ.ดร.พงค์เทพ กล่าวว่า ที่มาของการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ หรือ SEA คือแทนที่จะมองการประเมินเป็นรายแผนหรือรายโครงการ แต่ SEA จะมองภาพรวมทั้งหมดของพื้นที่ ครอบคลุมปัจจัยของผลกระทบในมิติต่างๆ ที่มากขึ้น ภายใต้คำว่าสิ่งแวดล้อมที่หมายรวมถึงทุกสิ่ง ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ ทรัพยากรธรรมชาติ ฯลฯ ขณะที่การประเมินผลกระทบทางสุขภาพ หรือ HIA ของ สช. ก็เป็นการมองระบบสุขภาพ สุขภาวะที่เป็นองค์รวม ดังนั้นทั้ง 2 เครื่องมือนี้จึงมีนัยยะที่สอดคล้องเป็นเรื่องเดียวกัน และสามารถนำมาบูรณาการร่วมกันได้ ซึ่งเป็นกรอบแนวคิดที่ ม.อ. นำไปใช้ในการศึกษาเพื่อจัดทำแผนพัฒนาเชิงพื้นที่ของ จ.สงขลา และ จ.ปัตตานี ด้วยเช่นกัน
“HIA จะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และพัฒนานโยบายสาธารณะ โดยมีหัวใจหลักคือให้ความสำคัญกับชุมชนในการมีส่วนร่วมกำหนดทิศทางการพัฒนา ส่วน SEA ซึ่งถูกใช้ในการวางแผนเป็นแม่บท ก็ได้นำฐานคิดเดียวกันนี้ไปใช้ เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มาร่วมกันคิด โดยเราเริ่มจากการศึกษาต้นทุนในพื้นที่ ก่อนวางฉากทัศน์ภาพอนาคตที่ทุกคนอยากเห็น ซึ่งกระบวนการนี้จะช่วยให้เราเห็นความต้องการของส่วนรวมมากขึ้น ทำให้ทิศทางการพัฒนาที่เกิดขึ้นมีความยั่งยืน” ผศ.ดร.พงค์เทพ ระบุ
ผศ.ดร.เรวดี โรจนกนันท์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ของสภาพัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบันสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ได้ขับเคลื่อนและนำ SEA ไปใช้เป็นเครื่องมือที่ช่วยประกอบการตัดสินใจ พร้อมประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากแผนการพัฒนาพื้นที่ ช่วยให้เกิดการมองที่รอบด้านและครอบคลุมในทุกมิติ โดยเฉพาะสิ่งสำคัญที่ถอดแบบจาก HIA คือมุ่งเน้นกระบวนการมีส่วนร่วม ให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามาร่วมตัดสินใจในแทบทุกขั้นตอน
![เรวดี โรจนกนันท์](/sites/default/files/inline-images/%E0%B8%9C%E0%B8%A8.%E0%B8%94%E0%B8%A3.%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%B5%20%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%8C_0.jpg)
“เราให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมอย่างมาก เพราะถือเป็นข้อมูลนำเข้าที่สำคัญในการขับเคลื่อน เพื่อให้แผนออกมาได้สอดคล้องกับความต้องการของคนในพื้นที่มากที่สุด แต่ก็ต้องอยู่บนบริบทของการเดินไปข้างหน้า การพัฒนาที่ต้องเดินไปสู่อนาคต โดยนำเอาทั้งความต้องการของชุมชน กับแผนยุทธศาสตร์ที่ถูกกำหนดขึ้นมารวมกันให้ได้” ผศ.ดร.เรวดี กล่าว
ขณะที่ นายสุทธิพงษ์ วสุโสภาพล รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า เป้าหมายของเครื่องมือการประเมินทั้งสองนั้นมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนบนพื้นฐานของสุขภาวะ ซึ่ง SEA นั้นจะถูกใช้กับการวางกรอบใหญ่ ที่เป็นนโยบายหรือแผนหลัก แต่ในส่วนของ HIA นั้นมีความตั้งใจที่จะให้เป็นเครื่องมือของสังคม ที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ และยังสามารถใช้ประเมินผลกระทบได้ในทุกระดับ ตั้งแต่แผนยุทธศาสตร์ นโยบายระดับชาติ ไปจนถึงกิจกรรมการพัฒนาในระดับชุมชน
![สุทธิพงษ์ วสุโสภาพล](/sites/default/files/inline-images/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%A9%E0%B9%8C%20%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A5%281%29.jpg)
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ดังนั้น HIA จะสามารถบูรณาการกับ SEA ได้ในทุกระดับ อย่างการจัดทำแผนพัฒนาเชิงพื้นที่ HIA ก็จะสามารถสนับสนุนโดยการสร้างทางเลือกให้กับนโยบายหรือแผนนั้น ด้วยข้อเสนอที่มีความชัดเจน มองอย่างรอบด้านทุกมิติ พร้อมยังช่วยปรับปรุงให้แผนนั้นได้นำข้อห่วงกังวลของคนในพื้นที่เข้าไปเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นได้ กลายเป็นรูปธรรมของหลักการทุกนโยบายห่วงใยสุขภาพ (HiAP) ซึ่งท้ายที่สุดผลการประเมินนี้จะเป็นตัวช่วยประกอบการตัดสินใจ
“สช. ได้เดินหน้าขยับขยายกระบวนการ HIA ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง อย่างขณะนี้เราใช้ภาควิชาการนำ โดยมีเครือข่ายสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ทั้ง 6 ภูมิภาค เข้ามาร่วมสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ พัฒนาศักยภาพ เพราะเราหวังว่า HIA จะเป็นเครื่องมือที่ทุกคนเป็นเจ้าของ ร่วมใช้ได้ และอยากให้เกิดการเปลี่ยนมุมมองว่าการประเมินผลกระทบ ไม่ใช่เพื่อคัดค้านได้เพียงอย่างเดียว แต่ก็สามารถเป็นการประเมินอย่างสร้างสรรค์ ทำให้เกิดการพัฒนาในเชิงบวกมากขึ้น” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
ด้าน ผศ.ดร.วีระศักดิ์ พุทธาศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าโครงการพัฒนารูปแบบการดำเนินงานในการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) เพื่อพัฒนานโยบายสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ กล่าวว่า ทาง สช. ได้ดำเนินโครงการฯ ศึกษาภายใต้การสนับสนุนจากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เพื่อให้งานวิจัยนี้เป็นอีกช่องทางหนึ่งของการทำให้ HIA มีความเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ภายใต้หลักฐานเชิงวิชาการ
![วีระศักดิ์ พุทธาศรี](/sites/default/files/inline-images/%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AF%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B9%8C.jpg)
ขณะเดียวกัน งานวิจัยดังกล่าวยังมุ่งให้ความสำคัญไปที่ อปท. ไม่ว่าจะเป็นองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซึ่งถือเป็นตัวจริงในพื้นที่ ที่จะสามารถทำให้เกิดกระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะได้ เพราะไม่ว่ากิจกรรม โครงการ หรือนโยบายใดๆ ล้วนส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ทั้งสิ้น แต่การประเมินผลกระทบก็ไม่ได้มุ่งหวังที่จะนำไปสู่การต่อต้านหรือคัดค้าน หากจะเป็นการช่วยทำให้โครงการหรือนโยบายนั้นดีขึ้น โดยใช้เครื่องมือ HIA เป็นตัวชี้บอก
“เจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติฯ ต้องการให้ HIA เป็นสิทธิของประชาชนทุกคน โดยสิ่งสำคัญที่เราอยากมุ่งเน้นคือการมีส่วนร่วมในกระบวนการ HIA เพราะจากประสบการณ์ใช้เครื่องมือ HIA ในพื้นที่ เราพบว่าสิ่งที่เป็นรูปธรรมหรือความภาคภูมิใจของงานนี้ คือการได้แก้ไขความขัดแย้ง ช่วยให้คนเข้าใจพื้นที่ และรักในท้องถิ่นตัวเองมากขึ้น ฉะนั้น HIA จะเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งในกระบวนการนโยบายสาธารณะที่สร้างชุมชนเข้มแข็ง” ผศ.ดร.วีระศักดิ์ กล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม:
กลุ่มงานสื่อสารสังคม สช.
โทร. 02-8329141
![้HIA Forum](/sites/default/files/images/contents/IMG_5427%20%281%29_0.jpg)