Grid posts | สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

TOR และราคากลาง จ้างผลิตถุงผ้างานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 9 พ.ศ.2559 โดยวิธีตกลงราคา

TOR และราคากลาง จ้างผลิตถุงผ้างานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 9 พ.ศ.2559 โดยวิธีตกลงราคา (ซึ่งมีวงเงินไม่เกิน 300,000 บาท) เพื่อลงเผยแพร่ในเว็บไซต์ของ สช. โดยใช้ระยะเวลา 3 วันทำการ คือ ตั้งแต่วันที่ 7-9 ธันวาคม 2559

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากเอกสารแนบด้านล่าง

รวมพลังภาคี ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ

   ในที่สุดงานประชุมใหญ่ประจำปีของพี่น้องภาคีและเครือข่ายนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมก็มาถึงอีกวาระหนึ่ง
 
   ผมขอต้อนรับท่านสมาชิกผู้เข้าร่วมประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 9 และพี่น้องประชาชนผู้มุ่งมั่นตั้งใจมาร่วมเหตุการณ์ประวัติศาสตร์และกิจกรรมสำคัญของประเทศ
 
   สมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งนี้ มีนัยที่สะท้อนการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์และวิธีการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) หลายประการ ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนจากกรอบการดำเนินงานตามแผนงานหลักของ สช. ฉบับที่สอง (2555-2559) สู่ฉบับที่สาม (2560-2564)
 

ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการกลั่นกรองใบสมัครเข้าสู่กระบวนการคัดเลือก

ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการกลั่นกรองใบสมัครเข้าสู่กระบวนการคัดเลือก

ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช) เรื่องการรับสมัครงาน ลงวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๙ นั้น บัดนี้คณะกรรมการคัดเลือก ได้พิจารณากลั่นกรองผู้สมัคร จากวุฒิการศึกษา ประสบการณ์ในการทำงานและผลงานในอดีตจากใบสมัคร จึงขอประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบเพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดเลือก ดังต่อไปนี้ ดูเอกสารตาม File แนบด้านล่าง

สช. ผนึกภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ เดินหน้ายุทธศาสตร์หยุดปัญหา‘เชื้อดื้อยา’

   สช. เผยมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ ๘ “วิกฤติการณ์เชื้อแบคทีเรียดื้อยาและการจัดการปัญหาแบบบูรณาการ” สร้างความตื่นตัวทุกภาคส่วนในสังคม สานพลังเดินหน้าแก้ปัญหาและให้ความรู้แก่ประชาชนเรื่องการใช้ยาที่ถูกต้อง เตรียมจับมือ ๒๘๐ เครือข่ายสมัชชาสุขภาพระดับจังหวัด รณรงค์ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับโรงพยาบาล อสม. และกระทรวงสาธารณสุข
 

สช.ร่วมผนึก ๘ องค์กรภาคี วางพิมพ์เขียวผลิตบุคลากรสุขภาพ

   สช. พร้อมขับเคลื่อน MOU พัฒนาบุคลากรด้านสุขภาพ ร่วมกับ ๘ องค์กรภาคีสำคัญ อาทิ ศธ. สธ. สปสช. ฯลฯ หวังสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วนตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ทั้งมหาวิทยาลัยที่ผลิตบัณฑิตใหม่ ไปจนถึงผู้ให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข นำไปสู่การปฏิรูประบบให้บริการที่มีประสิทธิภาพ เสมอภาค และสอดคล้องกับความต้องการของประเทศ