ดีเดย์เวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 10 ปลุกทุกภาคส่วนแก้ 4 ประเด็นนโยบายสาธารณะ | สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ Skip to main content

   ที่ประชุม คจ.สช. เห็นชอบกำหนด ๔ ระเบียบวาระสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๐ พ.ศ.๒๕๖๐ มุ่งเสริมสร้างคนไทยทุกช่วงวัยให้มีกิจกรรมทางกาย ปลุกชุมชนเฝ้าระวังแก้ปัญหายาเสพติด พร้อมพัฒนาพื้นที่เล่นสุขภาวะของเด็กปฐมวัยและประถมศึกษา และจัดการปัญหาขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืน โดยเน้นให้ภาคียุทธศาสตร์ร่วมขับเคลื่อนได้จริง สู่การสร้างพื้นที่รูปธรรมแห่งความสำเร็จ
 
   เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๐ มีการประชุมคณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คจ.สช.) ครั้งที่ ๔/๒๕๖๐ โดย นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และกรรมการจากทุกภาคส่วน ณ ห้องทิพวัลย์ ๒ โรงแรมริชมอนด์ จ.นนทุบรี
 
   นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ กล่าวว่า เวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ถือเป็นกระบวนการสำคัญในการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม ภายใต้ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๐ โดยปีนี้ สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๐ พ.ศ.๒๕๖๐ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๐-๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๐ ณ อาคารอิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิดหลัก “๑๐ ปี พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ สู่สังคมสุขภาวะ” ที่จะมีภาคีภาครัฐ ภาควิชาการ วิชาชีพ ภาคประชาสังคม ชุมชนและท้องถิ่นเข้าร่วมกว่า ๖๐๐ องค์กร
 
   นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า คจ.สช. ได้เห็นชอบระเบียบวาระสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๐ พ.ศ.๒๕๖๐ จำนวน ๔ ระเบียบวาระ เพื่อหาฉันทมติและพัฒนาเป็นนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพสำหรับขับเคลื่อนเพื่อแก้ปัญหาโดยทุกภาคส่วน ประกอบด้วย ๑.การส่งเสริมให้คนไทยทุกช่วงวัยมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น ๒.การมีส่วนร่วมของชุมชนในการเฝ้าระวัง และแก้ไขปัญหายาเสพติด ๓.การพัฒนาพื้นที่เล่นสร้างเสริมสุขภาวะของเด็กปฐมวัยและประถมศึกษา และ ๔.การจัดการขยะมูลฝอยในชุมชนแบบมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน
 
   “การประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติปีนี้ ถือว่าน่าสนใจทั้ง ๔ ระเบียบวาระ แต่สิ่งที่ต้องเพิ่มเติม คือ สร้างการมีส่วนร่วมของภาคียุทธศาสตร์ให้มากที่สุด และเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปขับเคลื่อน รวมถึงการเชื่อมประสานกับคณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทางปฏิบัติอย่างแท้จริง และนอกจากนี้ จำเป็นต้องมีช่องทางในการสื่อสารกับสาธารณะให้เกิดความตื่นตัวในพื้นที่ต่อไป”
 
   นพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า ระเบียบวาระสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๐ ทั้ง ๔ เรื่อง ถือว่ามีความสำคัญต่อการแก้ปัญหาสุขภาวะของคนไทย และในรอบ ๑๐ ปีของการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๐ ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญในการปฏิรูประบบสุขภาพที่ทุกภาคส่วนในสังคมมีความตื่นตัวอยู่ในขณะนี้ สมัชชาสุขภาพแห่งชาติถือเป็นเครื่องมือสำคัญชิ้นหนึ่งที่ปัจจุบันมีมติแล้วรวม ๗๓ มติ ซึ่งส่วนหนึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว และพบว่ามติส่วนใหญ่นั้น หน่วยงานต่างๆ รวมถึงภาคประชาสังคม ได้นำไปขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่
 
   “สิ่งสำคัญของมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ก็คือ กระบวนการทำงานอย่างครบวงจร หลอมรวมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และสามารถขับเคลื่อนมติได้จริง โดยหลังจากมีฉันทมติใน ๔ ประเด็นแล้ว ต้องสร้างสิ่งที่เรียกว่า ผู้ก่อการดีและพื้นที่รูปธรรม เพื่อให้เกิดเป็นตัวอย่างของความสำเร็จ” นพ.พลเดช ระบุ
 
   สำหรับงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ ๑๐ ในปีนี้ นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ได้รับประทานพระคติธรรมจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก พร้อมมีพิธีประกาศธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ โดย พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม และประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์
 
   นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ การเปิดตัวหนังสือ “๑๐ ปี สมัชชาสุขภาพไทย” ที่ศึกษาโดย WHO และ “สุขภาพทางปัญญา: จิตวิญญาณ ศาสนา และความเป็นมนุษย์” ที่ สช. สนับสนุนให้สำนักวิจัยสังคมและสุขภาพทำการศึกษา การปาฐกถาพิเศษจากผู้ทรงคุณวุฒิทั้งประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงนิทรรศการ และเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในพื้นที่และการพัฒนานโยบายสาธารณะในประเด็น อาทิ นโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพนักมวยเด็ก, พื้นที่สาธารณะเพื่อสุขภาพ, การผลักดัน พ.ร.บ. เขตพื้นที่ทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ เป็นต้น
 

กลุ่มงานสื่อสารสังคม สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) 02-832-9143

รูปภาพ