สุขภาวะในระยะสุดท้ายของชีวิต : ชีวิตที่ดีต้องมีแผน | สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ทุกคนทราบดีว่าเมื่อเกิดมาแล้วก็ต้องตาย เปรียบกับผลไม้ สุกก็หล่น แก่ก็หล่น อ่อนก็หล่น แม้คนเราจะถึงเวลาที่เป็นผลไม้สุกงอมแล้ว แต่กลับเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยได้ตระเตรียม

เทคโนโลยีการแพทย์ที่ก้าวหน้ามากขึ้น สามารถยืดระยะเวลาตายออกไปได้ แต่การรักษาบางอย่างไม่ได้เกิดประโยชน์ที่แท้จริงกับผู้ป่วย หากเพิ่มความทุกข์ทรมานมากขึ้นยาวนานขึ้นในระยะสุดท้ายของชีวิต

พ.ร.บ. สุขภาพแห่งชาติ ๒๕๕๐ หมวดที่ ๑ สิทธิและหน้าที่ด้านสุขภาพ มาตรา ๑๒ บุคคลมีสิทธิทำหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์รับบริการสาธารณสุขที่เป็นไปเพียงเพื่อยืดการตายในระยะสุดท้ายของชีวิตตน หรือเพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วยได้

เป็นสิทธิของผู้ป่วยที่อยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิต ที่จะปฏิเสธการรักษาที่ไม่เกิดประโยชน์แก่ผู้ป่วย ทั้งทำให้ผู้ป่วยได้รับความทุกข์ทรมานจากเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยยืดการตายออกไป แต่ไม่ทำให้คุณภาพชีวิตผู้ป่วยดีขึ้น เช่น การใส่ท่อช่วยหายใจ การใช้เครื่องช่วยหายใจ การเจาะคอ การให้สารอาหารทางสายยาง การปั๊มหัวใจหัวใจหยุดเต้น ฯลฯ โดยทำเป็นหนังสือแสดงเจตนาไว้

ทั้งนี้ผู้ป่วยไม่ได้ถูกทอดทิ้ง ยังได้รับการดูแลจากแพทย์ พยาบาล และญาติ เพื่อให้ได้รับความสบาย จนเสียชีวิตอย่างสงบตามธรรมชาติ  

ร่วมกันวางแผนเตรียมการตายดี จากไปอย่างสงบ สมปรารถนา ทางเลือกสร้างสุขในบั้นปลาย สุขภาวะในระยะสุดท้ายของชีวิต ด้วยการทำพินัยกรรมหนังสือแสดงเจตนาฯ และขณะนี้ได้พัฒนาร่วมกับ ThaiIDเป็น e-Living Will เพื่อความสะดวกอีกทางหนึ่งด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  https://e-livingwill.nationalhealth.or.th/

พระพุทธองค์ได้กล่าวปัจฉิมโอวาท เป็นคำสอนครั้งสุดท้ายก่อนจะปรินิพพานว่า “วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ” แปลว่า “สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจง ยังประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่น ให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาทเถิด” 

ชีวิตที่ดีต้องมีแผน เตรียมพินัยกรรมชีวิตทำหนังสือแสดงเจตนาฯ กันไว้นะครับ.

 

รูปภาพ
หมวดหมู่เนื้อหา