เฉลิมพระชนมพรรษาในหลวง ร.10

ปักธงขับเคลื่อนพลังสมัชชาประชาชนคนอำนาจเจริญ 2568 “1 ทศวรรษเมืองธรรมเกษตร สู่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง”


VIEW:  37   SHARE:1     24-07-2025
เผยแพร่โดย: 
by
 สำนักขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (สช.อ.)

วันที่ 24 กรกฏาคม 2568   เครือข่ายสมัชชาสุขภาพจังหวัดอำนาจเจริญ เครือข่ายสภาองค์กรชุมชน  20 จังหวัด ขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดอำนาจเจริญ ขบวนองค์กรชุมชน 20 จังหวัด  สมาพันธ์เกษตรอินทรีย์จังหวัดอำนาจเจริญ  สมาพันธ์เด็กและเยาวชนเมืองธรรมเกษตร  ภาคส่วนราชการและภาควิชาการ รวมกว่า 450 คน รวมแสดงพลังหนุนเสริม ใน “เวทีสมัชชาประชาชนฅนอำนาจเจริญ พ.ศ.2568 ภายใต้แนวความคิด “1 ทศวรรษอำนาจเจริญเมืองธรรมเกษตร เครือข่ายสภาองค์กรชุมชนภาคอีสาน สู่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง” ณ ห้องประชุม ANT HALL วิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ


ทั้งนี้เครือขายสมัชชาสุขภาพจังหวัดอำนาจเจริญ ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายภายในจังหวัดขับเคลื่อนในประเด็นเกษตรอินทรีย์เพื่อสุขภาวะคนเมืองธรรมเกษตร  ประกาศนโยบาย “อำนาจเจริญเมืองธรรมเกษตร” นับตั้งแต่ พ.ศ.2558 ซึ่งมีความหมายว่า เมืองเกษตรกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เมืองคนดี มีธรรมนำชีวิต สังคมฮักแพงแบ่งปัน มีแนวทางสำคัญคือการพัฒนาโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน เพื่อความอยู่ดีมีสุข พร้อมกับการสร้างพลังพลเมืองคนอำนาจเจริญลุกขึ้นมากำหนดอนาคตของตนเอง ในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น ตำบล สู่จังหวัดของตนเอง ภายในปี 2575

 เริ่มต้นเปิดเวทีโดยตัวแทนขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดอำนาจเจริญ อาจารย์วาณิชย์ บุตรี และนางรัตนา สาระคุณ ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานนี้ เพื่อสนับสนุนและเชื่อมโยงแผนงานจังหวัดบูรณาการร่วมกับหุ้นส่วนการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง การขยายเครือข่าย และต่อยอดการพัฒนาพื้นที่รูปธรรมความสำเร็จ โดยเชื่อมโยงการทำงานผ่านกลไกการดำเนินงานในพื้นที่รวมถึงการโยงคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับตำบล (พชต.) และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตลอดจนเพื่อขยายเครือข่ายต่อยอดการพัฒนาพื้นที่รูปธรรมความสำเร็จ และเสนอรูปธรรมการจัดการตนเองที่ตอบโจทย์คุณลักษณะเมืองธรรมเกษตร ที่มีเชื่อมโยงการทำงานผ่านกลไกภาคีเครือข่ายต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีพลัง

ภายในงานมีกิจกรรม การมอบรางวัลเกียรติคุณ ผู้นำองค์กรชุมชน และหน่วยงาน ภาคอีสาน รางวัลแห่งความภาคภูมิใจของคนอาสาพัฒนา มีการร่วมเป็นสักขีพยานประกาศแผนพัฒนาสู่เมืองธรรมเกษตร และมอบใบประกาศนียบัตรเด็กและเยาวชนดีเด่น ผู้ขับเคลือนงานพัฒนาพื้นที่รูปธรรมจังหวัด ตลอดจนกระบวนการรับฟังความคิดเห็นและรับรอง (ร่าง) แผนพัฒนาสู่เมืองธรรมเกษตรและข้อเสนอเชิงนโยบาย แผนพัฒนาสู่เมืองธรรมเกษตร 5 ปี 

จากนั้น ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ประชาธิปไตยฐานรากเปลี่ยนแปลงประเทศไทย” โดย ศ.ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ ผู้อำนวยการหลักสูตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวถึงหัวใจ สำคัญของประชาธิปไตยฐานราก คือ ชุมชนท้องถิ่น คือ พลังสำคัญในการขับเคลื่อน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ แท้จริงแล้วในสังคมไทยชุมชนท้องถิ่น คือ “ฐานราก” ของสังคม และการสร้างชุมชนท้องถิ่น ให้มีความเข้มแข็งคือทางรอดของสังคมไทย” ประชาธิปไตยชุมชน เป็นประชาธิปไตยที่กินได้ และสามารถคืนประเทศให้คลายจากวิกฤตได้


“อำนาจเจริญ เป็นจังหวัดที่มีต้นทุนการทำงานของภาคประชาชนที่มีความเข้มแข็ง มีปราญช์ชาวบ้าน ที่มีบทบาทสำคัญ เป็นตัวอย่างให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลง จากการมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชน เป็นแนวทางที่ทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาด้านคุณภาพชีวิตของประชาชน ได้แก่ ภัยพิบัติ ผู้สูงอายุ  โรคติดต่อ ยาเสพติด ฯลฯ ซึ่งปัญหาเหลานีมิอาจแก้ไขให้ลุล่วงได้โดยรัฐบาลท้องถิ่นเพียงลำพัง  จึงหนีไม่พ้นที่จะต้องแสวงหาความร่วมมือกับภาคีอื่นๆ ความร่วมมือระหว่างภาคีต่างๆ เมื่อนำมารวมกันย่อมก่อให้เกิดพลังเพิ่มแบบทวีคูณ รวมทั้งยังกอให้เกิดการถวงดุลอำนาจและการตรวจสอบ เพิ่มความสนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม เกิดการกระจายประโยชน์อย่างเสมอภาคและเป็นธรรมสูงขึ้น รวมทังการพัฒนาท้องถิ่นที่ยั่งยืน”

พร้อมกันนั้น วงเสวนาในหัวข้อ ทิศทางสำคัญต่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ “สานพลังภาคีอาสา สร้างจังหวัดเข้มแข็ง” โดยมี นายกฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) นายแพทย์วรัญญู สัตยวงศ์ทิพย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) และ  นายแพทย์ประทีป ธนกิจเจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ สปสช. และนายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน เขตพื้นที่ 10 ร่วมแลกเปลี่ยนถึงสถานการณ์ภาวะวิกฤติภายในประเทศ ทำให้พิสูจน์ได้ว่า ชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง เห็นพลังภาคประชาชนที่ลุกขึ้นสู้ แก้ไขปัญหากับวิกฤตโรคระบาด มีการโยงภาคีมาช่วยหนุนเสริมหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับการทำงานพัฒนาภาคประชาชนในพื้นที่

นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวถึงข้อเสนอที่เป็นเข็มทิศมุ่งสู่ 5 เป้าหมาย สู่การสานพลังภาคีอาสา สร้างจังหวัดเข้มแข็ง หนุนเสริมอํานาจเจริญ เมืองธรรมเกษตร คือ 1.สมัชชาประชาชนให้เป็นพื้นที่กลางในการพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญคนอำนาจเจริญ ให้เป็นส่วนหนึ่งในแผนพัฒนาจังหวัด  2. สานพลังสภาชุมชนและกองทุนชุมชน พัฒนาและขับเคลื่อนประเด็นสำคัญของชุมชนท้องถิ่น เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งในการแก้ไขปัญหา และหนุนช่วยชาติ รับมือวิกฤตเศรษฐกิจ 3.การผนึกพลังร่วมมือ กับภาคียุทธศาสตร์ส่วนกลาง ขับเคลื่อนงานในประเด็นท้าทายร่วมในระดับเขตและภูมิภาค 4.การมีส่วนร่วมสําคัญในการออกแบบพัฒนาและขับเคลื่อนระบบสุขภาพปฐมภูมิ และสุขภาพชุมชนผ่านกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับพื้นที่และจังหวัด รวมทั้ง รพ.สต. ถ่ายโอนให้ อบจ.และ 5 ดําเนินงานคู่ขนานกับการขยายเครือข่ายคนทำงานรุ่นใหม่และพัฒนาศักยภาพขององค์กรชุมชน เพื่อเป็นกำลังหลักมุ่งไปสู่อำนาจเจริญเมืองธรรมเกษตร และชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง


จากนั้น ได้มีการนำเสนอกระบวนการรับฟังความคิดเห็นและรับรอง (ร่าง) แผนพัฒนาสู่เมืองธรรมเกษตรและข้อเสนอเชิงนโยบาย สถานการณ์ปัญหา โอกาส และความท้ายทาย ตลอดจนการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย ต่อแผนการเคลื่อนเมืองธรรมเกษตร การระดมความคิดของคนอำนาจเจริญ ผู้นำการพัฒนา เด็ก เยาวชนคนอำนาจเจริญทุกหมู่เหล่า แสดงให้เห็นถึงพลังทางความคิดและการมีส่วนร่วมของการพัฒนาเมืองโดยเครือข่ายภาคประชาชนคนอำนาจเจริญอย่างแท้จริง โดยมีการยื่นข้อเสนอแผนพัฒนาสู่เมืองธรรมเกษตร เป็นข้อเสนอเชิงนโยบายภาคประชาชน เสนอต่อจังหวัด โดยมี
นายนิกร ทองจิตร นายอำเภอเมืองอำนาจเจริญ ตัวแทนภาครัฐระดับจังหวัดรับข้อเสนอและกล่าวปิดเวที โดยมีรายละเอียดข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ดังนี้

1. การผลักดันแผนพัฒนาสู่เมืองธรรมเกษตรให้เป็นวาระจังหวัด เพื่อให้หน่วยงานทุกภาคส่วนในจังหวัดอำนาจเจริญเห็นความสำคัญกับแผนพัฒนา

2. เพื่อพัฒนากลไกการขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติ โดยส่งเสริมให้กลไกในระดับตำบล อำเภอ จังหวัด ควรนำแผนพัฒนาสู่เมืองธรรมเกษตร เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับในภารกิจของแต่ละหน่วยงาน

3. ผลักดันมาตรการภายใต้แผนพัฒนาสู่เมืองธรรมเกษตรฯ ให้อปท.ทุกแห่งนำไปปรับปรุง เพิ่มเติม และบรรจุแผนฯ เข้าสู่ข้อบัญญัติท้องถิ่น เพื่อให้อปท.สามารถจัดการบริการและส่งเสริมการพัฒนากลุ่มองค์กรชุมชน และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทุกช่วงวัย

4. การจัดตั้งงบประมาณรองรับแผนพัฒนาสู่เมืองธรรมเกษตร เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ ควรจัดตั้งงบประมาณรองรับแผนพัฒนาฯ ดังกล่าว ไว้กับหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบและเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล

5. ส่งเสริมความร่วมมือเครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนร่วมกับภาคเอกชน สถาบันวิชาการ หน่วยงานภาครัฐ และภาคีความร่วมมือ เข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมความเข้มแข็งและพัฒนาภายใต้แผนพัฒนาสู่เมืองธรรมเกษตร เป็นฐานสำคัญต่อการพัฒนาพื้นที่

ท้ายสุดของการปิดเวทีขบวนองค์กรชุมชนคนอำนาจเจริญ ได้ร่วมกันร้องเพลงมาร์ชเมืองธรรมเกษตร อย่างดังกึกก้อง ธงสีขาวสมัชชาประชาชนคนอำนาจเจริญ ปี 2568 โบกสบัดอย่างสวยงาม แสดงให้เห็นพลังภาคประชาชนคนอำนาจเจริญ








NHCO Q&A