"MOU รถเติมสุข...พัฒนาระบบบริการรถรับส่งผู้ป่วยพบแพทย์จังหวัดสงขลา"


VIEW:  33   SHARE:0    
เผยแพร่โดย: 
by
 กลุ่มงานสื่อสารสังคม

10 มิย.68 กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดสงขลา/อบจ.สงขลา สปสช.เขต 12 กขป.เขต 12 สนง.ขนส่งจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด พมจ. ม.ราชภัฎสงขลา ม.อ. สมัชชาสุขภาพจังหวัด/มูลนิธิชุมชนสงขลา มูลนิธิฅนช่วยคน มูลนิธิเส้นด้าย ร่วม MOU พัฒนาระบบบริการรถรับส่งสาธารณะสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยหลังพ้นระยะวิกฤตและผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงจังหวัดสงขลา ร่วมชี้แจงแนวทางการบริหารจัดการร่วมกับอปท.140 แห่ง รพ.สต.มูลนิธิ สมาคมที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องการะเกด โรงแรมกรีนเวิร์ลพาเลซ อ.เมือง จ.สงขลา

นายกสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกอบจ.สงขลากล่าวเปิดงาน ถึงนโยบายการจัดบริการสาธารณะโดยนำรถ EV เข้ามาดำเนินงาน บริการให้กับผู้ป่วยเดินทางไปพบแพทย์ และให้เกียรติเป็นประธานร่วมลงนามความร่วมมือดังกล่าว

ทั้งนี้การรับส่งผู้ป่วยไปพบแพทย์ประสบปัญหาโดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกล ตัวอย่างตำบลบาโหย อำเภอสะบ้าย้อยที่เดินทางไปรพ.สงขลา ระยะทาง 120 กม.ไปกลับก็ 240 กม. รถสาธารณที่มีก็ไม่เพียงพอและไปไม่ทันเจาะเลือด ประชาชนจำนวนหนึ่งตัดสินใจไม่พบแพทย์ด้วยค่าใช้จ่ายเหมารถครั้งละ 2 พันบาทไปกลับ หลายหน่วยงานจึงพยายามแก้ปัญหา เช่น รพ.สะบ้าย้อยทำโครงการรถตู้ลดความเหลื่อมล้ำ

สปสช.เขต 12 กล่าวว่าสปสช.ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงออกมาตรการให้ใช้เงินกองทุนสุขภาพตำบลดูแลกลุ่มผู้ป่วยโดยเฉพาะคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ประสบความลำบากในการเข้าถึงบริการ ดูแลการเดินทางในอำเภอ โดยมีกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดมาเสริมในส่วนของผู้ป่วยที่เดินทางข้ามอำเภอ(กรณีจังหวัดสงขลาริเริ่ม) สำหรับโครงการนี้สปสช.มีแนวปฏิบัติพร้อมโครงการตัวอย่างให้อปท.นำไปปรับใช้ และให้ข้อเสนอแนะว่าอปท.ที่จะดำเนินการควรมีข้อมูลจำนวนผู้ป่วย ความถี่ในการรับบริการ ประเภทของผู้ป่วย เส้นทางที่ไปรับบริการ ประกอบการเขียนโครงการ โดยมีองค์กรผู้ให้บริการมารับช่วงดูแลต่อ ในส่วนการดำเนินงานภาพรวมควรประสานสตง.และปปช.เข้ามาร่วมกำหนดแนวทางตั้งแต่แรก

ขนส่งจังหวัดสงขลา กล่าวว่าการจัดบริการที่ไม่เน้นกำไร จะต้องมีเส้นทางไม่ทับซ้อนกัน และใช้กม.ว่าด้วยรถยนตร์และขนส่งทางบกในการกำกับการบริการเพื่อให้ได้มาตรฐาน กรณีอนาคตควรแก้กฏกระทรวงให้รถป้ายดำสามารถรับส่งผู้ป่วยในพื้นที่ เพื่อลดปัญหารถสาธารณะไม่เพียงพอ

สมัชชาสุขภาพจังหวัดสงขลากล่าวถึงการพัฒนาระบบบริการ ที่จะต้องครอบคลุมผู้ป่วยทุกสิทธิ์ ทุกกลุ่ม โดยแบ่งเป็น 3 ประเภทผู้ดำเนินการ คือ 1)รับผิดชอบโดยภาครัฐ ให้บริการตามสิทธิ์ของสปสช. 2)รับผิดชอบโดยมูลนิธิ บริการคนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง รวมถึงผู้ยากไร้ 3)รับผิดชอบโดยเอกชน บริการประชาชนที่มีกำลังจ่ายหรือสามารถร่วมกันจ่าย อนาคตจะมีกองทุนกลางจังหวัดในการเติมเต็มกรณีผู้ยากไร้ที่เงินในระบบไม่เพียงพอ

คณะวิศวกรรมศาสตร๋ มอ.ได้ออกแบบระบบสนับสนุนการให้บริการ พัฒนาเว็บไซต์เป็นการเฉพาะให้บริการแก่ เจ้าหน้าที่รพ.นำข้อมูลผู้ป่วยที่พบแพทย์เข้าสู่ระบบ พร้อมเส้นทาง ราคา จุดรับส่ง ส่งต่อคำขอรับบริการให้กับอปท. จัดทำโครงการสนับสนุน อนุมัติคำขอ ทั้งในส่วนของอบจ./กองทุนฟื้นฟูฯ และอปท.ระดับตำบล ประสานส่งต่อบริษัทหรือเอกชนที่จะจัดบริการ ทั้งในระดับอำเภอและข้ามอำเภอ พร้อมสรุปรายงานเพื่อให้เห็นผลการให้บริการ โดยอบจ.จะมีศูนย์บริการเติมสุขประสานการทำงานในภาพรวมทั้ง16 อำเภอ



อนาคตจะมีสายด่วนเพื่อรับแจ้งทางโทรศัพท์ เสริมการประชาสัมพันธ์ในวงกว้างเพื่อให้เกิดการรับรู้ รวมถึงการนำข้อมูลผู้ป่วยทั้งหมดมาจำแนกความถี่ ประเภทของผู้ป่วย เส้นทาง ประเภทรถบริการ(อบจ.เน้นประสานรถตู้ EV ของภาคเอกชนรับส่งข้ามอำเภอ) นำมาสู่การกำหนดเส้นทางร่วม และMOU ระหว่างมูลนิธิที่มีรถบริการร่วมแบ่งพื้นที่รับผิดชอบให้ครอบคลุมทั้ง 16 อำเภอ

มูลนิธิเส้นด้ายแลกเปลี่ยนบทเรียนการบริการในพื้นที่กทม.ที่นำร่องร่วมกับสปสช.โดยทำร่วมกับเครือข่ายภาคเอกชน พร้อมมี call center ในการประสานนัดหมาย การลงพิกัดผู้ป่วย และพร้อมนำระบบการบริหารจัดการลงมาดำเนินการร่วมกันในพื้นที่จังหวัดสงขลาโดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ เมือง สะเดา

ทั้งนี้โครงการมีเป้าหมายจะเริ่มดำเนินการทั้ง 16 อำเภอในช่วงเดือนตุลาคมปีนี้เป็นต้นไป

NHCO Q&A