วันแม่

เปิดฉาก ‘HIA Forum 2025’ ชูบทบาท ‘ท้องถิ่น’ สร้างสุขภาวะ ด้วยกลไกประเมินผลกระทบสุขภาพ


VIEW: 366   SHARE: 2     14-08-2025
เผยแพร่โดย: 
by
 กลุ่มงานสื่อสารสังคม

 

เวที “HIA Forum 2025” เปิดฉากวันแรกคึกคัก “ม.ธรรมศาสตร์” เป็นเจ้าภาพหลัก ชูประเด็นเน้นบทบาท “ท้องถิ่น” พัฒนาพื้นที่บนการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม-สุขภาวะดี ด้าน สช. พร้อมหน่วยงานภาคี ระดมพลังกว่า 800 ชีวิตร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เปิดประสบการณ์-มุมมองต่อกระบวนการเครื่องมือ “ประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ” ภายใต้ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติฯ

 

สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) พร้อมด้วย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และหน่วยงานภาคีเครือข่าย ร่วมจัดการประชุมวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ พ.ศ. 2568 (HIA FORUM 2025)HIA กับการพัฒนาท้องถิ่นเพื่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะที่ยั่งยืน” ระหว่างวันที่ 14-15 ส.ค. 2568 ณ อาคารอุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพื่อเป็นพื้นที่สำคัญของการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และมุมมองใหม่ๆ ในการพัฒนาแนวทางการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) ซึ่งเป็นเครื่องมือภายใต้ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550

สำหรับเวที HIA FORUM 2025 ครั้งนี้นับเป็นการจัดขึ้นครั้งที่ 4 โดยมีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มธ. เป็นหน่วยงานเจ้าภาพหลัก ซึ่งกิจกรรมตลอดทั้งสองวันประกอบด้วยเวทีเสวนา และการบรรยายในหลากหลายหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับกลไก HIA การแสดงบูธนิทรรศการและนำเสนอผลงานวิชาการ จากองค์กรภาคีภาคส่วนต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งภาควิชาการจากเครือข่ายสถาบันวิชาการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA Consortium) ทั้ง 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมในสถานที่ (on-site) อย่างคึกคักมากกว่า 800 คน รวมทั้งผู้ที่เข้าร่วมผ่านระบบทางไกล (online) อีกจำนวนมาก

 

 

 

นพ.สุเทพ เพชรมาก เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า โลกในยุคปัจจุบันเผชิญกับความท้าทายจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร ไปจนถึงประเด็นทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่ส่งผลให้เกิดภาวะวิกฤตซ้อนวิกฤต ซึ่งส่วนตัวมีมุมมองว่าการจะรับมือและก้าวข้ามความท้าทายต่างๆ ไปได้นั้น นอกจากที่จะต้องอาศัย ความรู้ แล้วอีกส่วนหนึ่งยังต้องใช้ ความรัก ซึ่งหมายถึงความร่วมมือร่วมใจ การมีความช่วยเหลือเอื้ออาทรต่อกัน เพื่อที่จะก้าวผ่านปัญหาไปได้ดังเช่นตัวอย่างจากสถานการณ์โควิด-19

นพ.สุเทพ กล่าวว่า สำหรับกระบวนการ HIA เองถือเป็นเครื่องมือที่มีความคล้ายคลึงกันในการผสานทั้งสองส่วน คือนอกจากที่จะใช้องค์ความรู้ โดยมีกฎหมายรองรับคือมาตรา 11 แห่ง พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติฯ แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความรักความสามัคคี พร้อมที่จะนำเครื่องมือ HIA ไปใช้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในชุมชนและพื้นที่ได้ ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการให้เป็นเครื่องมือในการสร้างสุขภาวะที่ดี หรือสุขภาพในความหมายที่กว้างขึ้นครอบคลุมทั้งมิติของกาย จิตใจ สังคม และปัญญา

นพ.สุเทพ กล่าวอีกว่า ในส่วนของงาน HIA Forum ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องโดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมหาวิทยาลัยเจ้าภาพ มีจุดประสงค์เพื่อสร้างบรรยากาศในการแลกเปลี่ยนทางวิชาการและองค์ความรู้ รวมถึงทำให้เกิดการร่วมมือเป็นภาคีเครือข่าย สร้างการมีส่วนร่วมเพื่อขับเคลื่อนกลไก HIA ไปสู่การมีสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะที่ยั่งยืน โดยปีนี้ได้มีการมุ่งเน้นไปที่บทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการร่วมขับเคลื่อนสู่เป้าหมายให้เกิดเมืองที่มีสุขภาวะดี

 

 

รศ. นพ.พฤหัส ต่ออุดม รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า เวที HIA FORUM ถือเป็นโอกาสสำคัญของการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ปฏิบัติงาน และหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ ที่จะนำไปสู่การพัฒนากลไกการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพที่เข้มแข็ง สามารถประยุกต์ใช้ในระดับพื้นที่ได้อย่างแท้จริง ซึ่งแนวคิดของการจัดเวที HIA FORUM 2025 ครั้งนี้ มีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ มธ. ที่มุ่งสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคต” โดยการส่งเสริมการใช้ข้อมูลทางสุขภาพเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย ยกระดับบริการสุขภาวะด้วยนวัตกรรม และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาคมมหาวิทยาลัยและสังคมโดยรอบ

รศ. นพ.พฤหัส กล่าวว่า นับเป็นบทบาทหน้าที่โดยตรงของมหาวิทยาลัย ในการสนับสนุนเรื่องขององค์ความรู้ บริการวิชาการ เมื่อมาผนวกกับ อปท. ที่มีบทบาทรับผิดชอบในการดูแลพื้นที่ต่างๆ โดยตรง จะเป็นประโยชน์ต่อการนำเอาองค์ความรู้ที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย กลับไปตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาในระดับท้องถิ่น ตลอดจนการร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อนำไปสู่นโยบายระดับชาติต่อไปได้

 

ขณะที่ นพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย สธ. กล่าวว่า กรมอนามัย ตระหนักถึงความสำคัญของ HIA ซึ่งนับเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการตัดสินใจเชิงนโยบายอย่างรอบด้าน เพื่อทราบถึงผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระดับโครงการ ระดับนโยบาย รวมถึงในระดับท้องถิ่นที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด โดยกรมอนามัยได้ส่งเสริมให้มี HIA ในระดับท้องถิ่น ผ่านกระบวนการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม (EHA) นอกจากนี้ยังมีการบูรณาการประเด็นสุขภาพเข้าไปในการดำเนินงานของ อปท. ผ่านแนวคิด เมืองสุขภาพดี เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเมืองโดยคำนึงถึงสุขภาพของประชาชนเป็นศูนย์กลาง

นพ.ธิติ กล่าวว่า ในปัจจุบันมี อปท. ขับเคลื่อนสู่เมืองสุขภาพดีจำนวนทั้งสิ้น 422 แห่ง ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่เข้าถึงบริการด้านส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพ และอยู่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี โดยกรมฯ มีเป้าหมายให้เกิดเมืองสุขภาพดีอย่างน้อย 1,000 แห่ง ภายในปี 2570 ซึ่งภายในเวที HIA Forum ครั้งนี้ยังได้จัดให้มีพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ อปท. และส่งเสริมการดำเนินงานดังกล่าวด้วย

 

 

ด้าน ผศ. ดร.สร้อยสุดา เกสรทอง คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มธ. กล่าวว่า ทาง สช. ได้เล็งเห็นความสำคัญถึงบทบาทของนักวิชาการและสถาบันการศึกษา จึงได้จัดให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ด้าน HIA ร่วมกับภาคีเครือข่ายทางวิชาการมาตั้งแต่ปี 2551 ก่อนที่จะมีการจัดเวทีประชุม HIA Forum ขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2565 โดยมีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นเจ้าภาพ ครั้งที่สอง ปี 2566 มีสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นเจ้าภาพ ครั้งที่สาม ปี 2567 มีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นเจ้าภาพ และครั้งที่สี่ ในปีนี้ ซึ่งทางคณะฯ ของ มธ. เป็นเจ้าภาพ

HIA เป็นเครื่องมือหนึ่งในการทำให้ชุมชนและทุกภาคส่วน คำนึงถึงเรื่องของสุขภาพในการพัฒนาโครงการหรือแผนงานต่างๆ ปรับเปลี่ยนวิธีคิดนอกจากมิติของเศรษฐกิจ สังคม ไปสู่ในเชิงของสุขภาพ สภาพแวดล้อม การสร้างความยั่งยืนให้กับพื้นที่มากขึ้น ซึ่ง มธ. เองที่มีพันธกิจในการรับใช้สังคม และมุ่งเน้นในเรื่องของความยั่งยืน ทางคณะฯ จึงมีการขับเคลื่อนทั้งในเชิงวิชาการ โดยหลักสูตรของคณะฯ ไม่ว่าปริญญาตรี โท เอก เราให้นักศึกษาได้เรียนรู้เกี่ยวกับ HIA เพื่อมีแนวคิดในการมองบริบทด้านสุขภาพแบบองค์รวม นอกจากนี้ยังมีในเชิงของวิจัย โดยดำเนินการร่วมกับ อปท. ชุมชน เพื่อสร้างองค์ความรู้และขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น เหมือง ขยะชุมชน โรงไฟฟ้า ภัยพิบัติ ฯลฯ

 

NHCO Q&A