… ปรานอม โอสาร หัวหน้าศูนย์วิชาการนโยบายระบบสุขภาพท้องถิ่น
ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกมิติของชีวิต ระบบสุขภาพของไทยก็เข้าสู่จุดเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ การพัฒนาจากระบบโทรเวชกรรม (Telemedicine) ไปสู่ระบบบริการสุขภาพทางไกลแบบบูรณาการ (Telehealth) ไม่ได้เป็นเพียงการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี แต่เป็นการปฏิรูประบบสุขภาพที่สอดคล้องกับทิศทางใหม่ของการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชนและท้องถิ่น
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) มีแผนพัฒนาและขับเคลื่อนระบบสุขภาพท้องถิ่นในระยะเวลา ๓ ปี ที่มีภาพที่พึงประสงค์สำคัญว่าภายในปี ๒๕๗๐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารถบริหารจัดการด้านสุขภาพตามหน้าที่ได้อย่างมีคุณภาพ ทั่วถึง เป็นธรรม ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน ประชาชนในพื้นที่มีสุขภาพดีทั้งสี่มิติ คือ กาย ใจ สังคม ปัญญา อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี มีส่วนร่วมในระบบสุขภาพ
สช. จึงร่วมมือกับหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ภาคียุทธศาสตร์ และองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่ได้มีการพัฒนางานวิจัยปฏิบัติการนำร่องระบบโทรเวชกรรม (Telemedicine) องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ทำให้มองเห็นศักยภาพของระบบ Telehealth ในการเชื่อมโยงระบบบริการสุขภาพให้เข้าถึงประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในยุคที่ระบบสุขภาพปฐมภูมิในพื้นที่กำลังเผชิญกับความท้าทายจากการขาดสมดุลระหว่างความต้องการบริการกับขีดความสามารถในการจัดบริการ การใช้เทคโนโลยี Telehealth จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยยกระดับการเข้าถึงบริการสุขภาพและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของครัวเรือนและชุมชนในการดูแลสุขภาพตนเอง ซึ่งจะมีการทดลองนำร่องระบบ Telehealth จำนวน ๓ ระบบ อาทิ Telenursing (การพยาบาล) Telepharmacy (การให้คำปรึกษาด้านยา) Telerehabilitation (การฟื้นฟูสมรรถภาพ) เพื่อสร้างต้นแบบระบบสุขภาพปฐมภูมิที่ยั่งยืน และสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อื่นๆ รวมถึงจะมีการพัฒนาศูนย์นวัตกรรมการจัดการระบบสุขภาพปฐมภูมิต้นแบบ องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ที่มีระบบข้อมูลเพื่อติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ด้านสุขภาพในจังหวัด (Health Dashboard) พร้อมทั้งมีฐานข้อมูลที่สำคัญเพียงพอสำหรับการวางแผนการจัดสรรงบประมาณและการตัดสินใจด้านสุขภาพชุมชน
ธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๖๕ ได้วางกรอบแนวคิดที่สำคัญในการพัฒนาระบบสุขภาพแบบบูรณาการ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนและการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมสุขภาพ ธรรมนูญฉบับนี้เปิดพื้นที่ให้ระบบ Telehealth เป็นส่วนหนึ่งของระบบสุขภาพแบบองค์รวมที่เชื่อมโยงตั้งแต่ระดับบุคคล ครัวเรือน ชุมชน จนถึงระดับท้องถิ่น
จากเอกสารสมัชชาเฉพาะประเด็นว่าด้วยระบบสุขภาพชุมชนและท้องถิ่น เมื่อวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างระบบสุขภาพที่มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นแกนกลาง ร่วมกับการพัฒนาขีดความสามารถของประชาชนในการดูแลสุขภาพตนเอง การนำระบบ Telehealth มาประยุกต์ใช้จึงตอบโจทย์หลักการสำคัญ ๔ ประการของระบบสุขภาพชุมชนและท้องถิ่นที่พึงประสงค์
ประการแรก ระบบ Telehealth สนับสนุนการส่งเสริมให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพและรับผิดชอบสุขภาพตนเองมากขึ้น ผ่านการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพ การให้คำปรึกษา และการติดตามสุขภาพแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยลดการพึ่งพาสถานพยาบาลและสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสาธารณสุขมูลฐานในชุมชน
ประการที่สอง การใช้เทคโนโลยี Telehealth ช่วยส่งเสริมการพัฒนาเมืองสุขภาวะ โดยการเชื่อมโยงข้อมูลด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยในชุมชน การเฝ้าระวังโรคติดต่อ และการจัดการภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพ เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถบริหารจัดการปัญหาสุขภาพในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที
ประการที่สาม ระบบ Telehealth เป็นกลไกสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานสุขภาพในพื้นที่ ตั้งแต่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สถานีอนามัย ไปจนถึงโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลระดับสูง การใช้ระบบข้อมูลสุขภาพแบบบูรณาการทำให้เกิดการประสานงานที่ดีขึ้นและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
ประการสุดท้าย การพัฒนาระบบ Telehealth ต้องมีนโยบายและกลไกสนับสนุนจากระดับชาติ โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณ การพัฒนากฎหมายและระเบียบที่เอื้อต่อการใช้เทคโนโลยี และการสร้างมาตรฐานการบริการที่เชื่อถือได้
ความสำเร็จของการพัฒนาระบบ Telehealth ไปสู่ระบบสุขภาพชุมชนและท้องถิ่นแบบบูรณาการจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการดำเนินงานแบบองค์รวมที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วน ตั้งแต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การสร้างความรอบรู้ดิจิทัลให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ไปจนถึงการสร้างระบบอภิบาลที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ
ระบบสุขภาพไทยในอนาคตจะเป็นระบบที่ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพคุณภาพสูงได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยไม่จำกัดด้วยระยะทางหรือข้อจำกัดทางกายภาพ เทคโนโลยี Telehealth จะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างความต้องการของประชาชนกับศักยภาพของระบบสุขภาพ สร้างสังคมแห่งสุขภาวะที่ยั่งยืนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย