22 กรกฎาคม 2568
⛳️ กรมสรรพสามิต ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดรับฟังความคิดเห็น เรื่อง “การพัฒนามาตรการทางภาษีเพื่อลดการบริโภคโซเดียม” ณ อาคารอเนกประสงค์ กรมสรรพสามิต โดยเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากผู้แทนหน่วยงานรัฐ ภาคสาธารณสุข ภาควิชาการ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม และ "ตระกูล ส" สสส. สช. สปสช. รวมกว่า 60 คน พร้อมภาคีเครือข่ายเพื่อร่วมกันออกแบบนโยบายภาษีที่ลดการบริโภคเกลือและโซเดียม ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)
▶️ นายชุมพล สุวรรณกิจบริหาร ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี กรมสรรพสามิต กล่าวเปิดเวทีและชี้แจงว่า 💬 “ภาษีไม่ใช่แค่เครื่องมือทางเศรษฐกิจ แต่สามารถเป็นพลังขับเคลื่อนสุขภาพประชาชน ลดภาระโรค และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนได้”
![]() |
🛠️เวทีนี้ถือเป็นหนึ่งในความก้าวหน้าของ มติ 8.4 มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติว่าด้วย “การลดการบริโภคเกลือและโซเดียม” โดยมุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วนร่วมกันออกแบบและสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในการลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และไตวาย เวทีครั้งนี้ใช้กระบวนการ Design Thinking เพื่อเชื่อมโยงความเห็นจากทุกภาคส่วน ค้นหาแนวทางที่ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ทั้งในมิติสุขภาพและเศรษฐกิจอุตสาหกรรมอาหาร
![]() |
![]() |
![]() |
🎯 จุดเน้น 3 ประการของเวทีนี้
1.รับฟังทุกเสียง: จากภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ และภาควิชาการ เพื่อร่วมออกแบบนโยบายภาษีที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนไทย
2.สร้างแรงจูงใจ: โดยใช้กลไกภาษีควบคู่กับระบบ “เครดิตสุขภาพ” ที่จูงใจให้ผู้บริโภคและผู้ผลิตปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
3.อิงหลักฐานจริง: ทุกข้อเสนออ้างอิงข้อมูลและงานวิจัยในประเทศ เพื่อออกแบบนโยบายที่ใช้ได้จริงและลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ เพื่อกระตุ้นการตระหนักรู้ของประชาชน พร้อมออกแบบกลไกด้านภาษีและเครดิตสุขภาพที่สนับสนุนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
![]() |
🔍 ประเด็นน่าสนใจจากเวทีระดมสมอง
📌• “ภาษีเพื่อสุขภาพ (Health Tax) วัตถุประสงค์เพื่อจัดเก็บจากสินค้าที่ก่อให้เกิดผลกระทบทางลบต่อสุขภาพ เพื่อลดการบริโภคสินค้าที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ป้องกันโรคไม่ติดต่อและสร้างรายได้สำหรับระบบสุขภาพ ข้อเสนอให้เก็บภาษีสินค้าโซเดียมสูง และจูงใจด้วยการสนับสนุนทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ
📌• WHO ผลักดันนโยบาย “3 by 35” มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประเทศต่างๆ เพิ่มราคาสินค้าไม่ดีต่อสุขภาพ อย่างน้อย 50% ภายในปี 2035 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดโรคไม่ติดต่อ NCDs และสร้างรายได้สาธารณะเพิ่มขึ้น
📌• สถานการณ์เด็กไทยน่าห่วง: เด็กไทยมีภาวะความดันโลหิตสูง 9.4% และอ้วน 14.5% จากการสำรวจล่าสุด และแนวโน้มของโซเดียมในอาหารสำเร็จรูปขนมขบเคี้ยวในปี 2562-2567 ลดลงเพียงเล็กน้อยหลังจากการรณรงค์และขอความร่วมมือในการปรับสูตรให้โซเดียมลดลง
📌• ข้อมูลวิจัยในไทย: ความร่วมมือจาก ม.มหิดล และทีมออสเตรเลีย (สนับสนุนโดย สสส.) พบว่าการลดโซเดียมส่งผลต่อระดับความดันโลหิตได้จริง
📌• แนวทางภาษีขั้นบันได: เสนออัตราภาษีที่เพิ่มตามปริมาณโซเดียม พร้อมแรงจูงใจแก่ผู้ผลิตที่ปรับสูตรลดโซเดียม
![]() |
![]() |
![]() |
🔄 ก้าวต่อไป
ข้อเสนอจากเวทีนี้จะถูกรวบรวมเพื่อจัดทำ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของการจัดเก็บภาษีโซเดียมในอนาคต ที่เหมาะสมกับบริบทของไทย โดยยึดหลัก “สมดุลระหว่างสุขภาพประชาชนกับการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมอาหาร” สุขภาพของประชาชน และ การพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
รายงานโดย สช.ต.