สช.จับมือ สสส. ขับเคลื่อน 3 มติสมัชชาฯ ด้านการสร้างเสริมสุขภาพ
วันนี้ (23 มิ.ย.2568) ผศ.พงค์เทพ สุธีรวุฒิ ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพสังคมและสุขภาวะ และนพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์และสาธาณสุข พร้อมด้วย นายสุทธิพงษ์ วสุโสภาพล และนพ.วรัญญู สัตยวศ์ทิพย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ นำทีม สช. เข้าพบ นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) หารือการสานพลังขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมสุขภาพ ณ ห้องประชุม 413 ชั้น 3 อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เขตสาทร กรุงเทพฯ
นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวต้อนรับว่า ขณะนี้ สสส. ได้รวบรวมข้อมูลการสนับสนุนขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ โดยจะมีการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ของ สสส.เชื่อมโยงกับมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ สานพลังการทำงานกับ สช. และ 9 ภาคีอาสา ในระยะสั้นจะส่งผลให้ภาคประชาสังคมในพื้นที่ขยับขยายเรื่องต่างๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งอาจจะมีการนำมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ไปขยับในบางพื้นที่ได้ โดย สสส. จะขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และคิดว่าองค์กรตระกูล ส. น่าจะมากำหนดประเด็นร่วม เป้าหมายร่วม และวัดความคุ้มค่าจากการทำงานที่เกิดขึ้นร่วมกัน สสส.กับสช. รวมถึงจะเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้จับมือกัน มีเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ และร่วมกันขับเคลื่อนทั้งในเชิงพื้นที่และประเด็นยุทธศาสตร์ด้วย
![]() |
![]() |
นายสุทธิพงษ์ วสุโสภาพล รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) กล่าวว่า การขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย เนื่องจากแต่ละฝ่ายมีศักยภาพที่แตกต่างกันทั้งเรื่องของกลไก ทรัพยากร เครือข่าย ศักยภาพทางวิชาการ รวมทั้งบทบาทการดำเนินงานของแต่ละองค์กร ถ้าหากสิ่งเหล่านี้ได้มีการสานพลังกันจะเป็นโอกาสในการเสริมหนุนให้สิ่งที่กำลังดำเนินการไปสู่ประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดได้ การหารือในวันนี้จะเป็นการขับเคลื่อนเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งต้องสานพลังกับภาคียุทธศาสตร์ วันนี้มาที่ สสส. ถ้าได้มีการแลกเปลี่ยนแสวงหานวัตกรรมที่มีก็จะโอกาสในการที่จะเสริมหนุนให้สิ่งที่ทำอยู่มีพลังมากขึ้น หลังจากคุยกับสสส. ทาง สช. ก็จะเข้าไปหารือกับสภาพัฒน์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ ซึ่งจะทำให้การขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติขับเคลื่อนได้ลงลึกและเป็นประโยชน์กับสังคมโดยรวม
ผศ.พงค์เทพ สุธีรวุฒิ ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพสังคมและสุขภาวะ กล่าวว่า ตอนนี้มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ มีเกือบหนึ่งร้อยมติแต่การขับเคลื่อนมติยังทำได้ไม่มาก ดังนั้นจึงต้องปรับการบริหารจัดการการขับเคลื่อนมติสมัชชา ในส่วนของ สสส. มีนวัตกรรมมีชุดความรู้ดี ๆ แต่การขยายผลทำได้ในลักษณะเชิงพื้นที่ มีเคสดีๆ แล้วไปขยายผลก็จะต้องใช้เวลานาน ต่างจากการขยายผลในเชิงนโยบาย เช่น ภาษีน้ำตาล ที่ทำแล้วส่งผลต่อประชาชนทั้งประเทศ จะเห็นได้ว่าทั้ง สช.และ สสส.ต่างก็มีข้อจำกัด เราจะทำอย่างไรให้สิ่งดีๆ ที่ทำเกิดผลในเชิงนโยบาย ถ้าทั้ง 2 หน่วยงานนำสิ่งที่เป็นจุดแข็งของตนมาช่วยกันปิดช่องว่าง ก็น่าจะช่วยในเรื่องของการขับเคลื่อนนโยบายหรือมติต่างๆ ของสมัชชาสุขภาพแห่งชาติได้มากขึ้น
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์และสาธาณสุข กล่าวว่า ตอนนี้ประเทศไทยมีการทำงานในประเด็นเดียวกันหลายภาคส่วน ตัวอย่างเช่นเรื่องเบาหวาน มีทั้งการสร้างโมเดล วิธีการทำงาน แต่ขาดการเชื่อมโยงข้อมูลซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ไม่เห็นภาพรวม ดังนั้นในการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ถ้าเราสามารถ mapping ได้ว่าใครทำอะไร ตรงไหน อย่างไรได้ชัดจริง ก็จะเป็นประโยชน์เพราะจะเห็นได้ว่าตรงไหนที่ยังขาดก็ได้หาคนมาปิดช่องว่าง หรือมีส่วนที่ทำซ้ำกันอยู่แล้วอาจจะไปทำส่วนอื่นที่เป็นประโยชน์มากกว่า เชื่อว่าประเด็นของมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติหลายเรื่องมีคนที่ทำอยู่แล้ว ถ้าการบูรณาการนี้ที่เริ่มต้นจากการแชร์ข้อมูล จะทำให้เห็นภาพการขับเคลื่อนได้ชัดเจน และเห็นช่องว่างว่าสิ่งที่จะต้องลงแรงให้มากอยู่ที่จุดไหนก็จะเกิดประโยชน์อย่างมาก
![]() |
![]() |
ทั้งนี้ เบื้องต้นที่ประชุมได้ร่วมแลกเปลี่ยนและมีข้อเสนอแนะ คือ
1.ยกระดับงานที่มีอยู่ไปสู่นโยบาย ขั้นตอนกระบวนการผ่าน คมส. คสช. และ ครม.
2.นำข้อเสนอในการขับเคลื่อนประเด็นจากทั้ง สสส. และสช. เข้าไปบรรจุไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่สภาพัฒนาการเศรษฐฉบับที่ 14
3.อยากให้เกิด action ในหน่วยงานเชิงยุทธศาสตร์อื่นด้วย เช่น กรมส่งเสริมปกครองถิ่น กระทรวงศึกษา
4.ข้อควรพิจารณา ในแต่ละมติควรพิจารณาจุดที่อยากจะขับเคลื่อนให้ชัดเจน เช่น กฎหมาย/ สร้างการตระหนักรู้ และภาพที่อยากจะเป็นเป็นอย่างไร
5. ขับเคลื่อนมติเชื่อมโยงหลายมติกับกลุ่มเป้าหมาย
6. ในการประชุมของ คสช. แต่ละครั้งน่าจะมีระเบียบวาระเรื่องข้อเสนอเชิงนโยบาย
สำหรับการดำเนินงานร่วมกันได้มีการกำหนดประเด็นขับเคลื่อนไว้ 3 เรื่อง คือ
1. NCDs ครอบคลุมอาหารและPA ทุกกลุ่มวัย
2. ปัจจัยเสี่ยงเหล้า บุหรี่ + อุบัติเหตุทางถนน +เด็กเยาวชน ในพื้นที่เสี่ยง
3. การจัดการภัยพิบัติ อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในพื้นที่เสี่ยง