บ้านเกาะโมเดล: ชุมชนต้นแบบปลอดอบายมุข รูปธรรมการมีส่วนร่วมของชุมชน อย่างยั่งยืน


VIEW: 123   SHARE: 0     17-07-2025

 

ความสำเร็จของตำบลบ้านเกาะ อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช ในการขับเคลื่อน ธรรมนูญสุขภาพ และการลดปัจจัยเสี่ยง เช่น แอลกอฮอล์และบุหรี่ในชุมชน นั้นเกี่ยวข้องกับผู้นำท้องถิ่น โรงเรียน ชุมชน หน่วยงานด้านสุขภาพ และพลเมืองที่ร่วมกันสร้างชุมชนปลอดภัย และสร้างการส่งเสริมสุขภาพคนในพื้นที่ให้มีสุขภาวะที่ดีขึ้น โดยเน้นบทบาทของความร่วมมือ และการมีส่วนร่วมของชุมชน จนเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม เช่น การลดการใช้สารเสพติดในโรงเรียน จนได้รับรางวัลระดับจังหวัดจากการดำเนินงาน นี่คือสิ่งที่บ่งบอกถึงการมีส่วนร่วมการพัฒนาชุมชนของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง

 

โครงการ "บ้านเกาะโมเดล" มีจุดเด่นและความสำเร็จอย่างไรในการเป็นชุมชนต้นแบบปลอดอบายมุข ?

โครงการ "บ้านเกาะโมเดล" ถือเป็นชุมชนต้นแบบที่มีจุดเด่นและความสำเร็จอย่างมากในการเป็นชุมชนปลอดอบายมุข โดยมีปัจจัยสนับสนุนและความสำเร็จที่สำคัญหลายประการ ดังนี้:

จุดเด่นและปัจจัยสนับสนุน:

ความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งและเครือข่ายความร่วมมือ:

    ◦ ผู้นำชุมชน เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผอ. รพ.สต. และ อสม. มีวิสัยทัศน์และเห็นความสำคัญของการจัดการปัญหาสุขภาพและอบายมุข

    ◦ มีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดแบบ "พี่น้อง" ระหว่างทุกภาคส่วน ทั้งภาคีเครือข่ายท้องที่ ท้องถิ่น ตำรวจ สาธารณสุข สถานศึกษา อสม. และสมาคมภาคประชาสังคม (NGO) ทำให้การประสานงานง่ายขึ้นและมีผู้ช่วยทำงานมากขึ้น

    ◦ มีการนำ "ธรรมนูญสุขภาพตำบลบ้านเกาะ" ซึ่งเกิดจากการทำงานร่วมกันของ สช. และ  สสส. มาเป็นข้อตกลงร่วมและกรอบการทำงานที่ชัดเจน

• มีทุนทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และภูมิศาสตร์:

    ◦ พื้นที่ตำบลบ้านเกาะมีอัตลักษณ์ที่สำคัญ เช่น เขาขุนพนม และเรื่องราวของพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งถูกนำมาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพและการท่องเที่ยว (เช่น งานวิ่ง  หรือ "ตามรอยสมเด็จพระเจ้าตาก ")

    ◦ มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทั้งป่าต้นน้ำและสายน้ำ มีอากาศดี และถูกส่งเสริมให้เป็น "เมืองปลอดคาร์บอน" ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเงียบสงบและพักผ่อน

    ◦ ภูมิศาสตร์เอื้ออำนวย โดยอยู่ใกล้ตัวเมือง แต่ก็เป็นจุดที่ผู้คนเลือกมาพักผ่อนและทำกิจกรรมที่เน้นสุขภาพมากกว่าสถานบันเทิงหรือแหล่งอบายมุข ทำให้ชุมชนมีความปลอดภัยและไม่วุ่นวาย

บุคลากร และวัฒนธรรมชุมชน:

    ◦ คนในชุมชนเป็นคนพื้นที่ดั้งเดิม มีความรู้จักกันแบบ "เครือญาติ" ทำให้ง่ายต่อการพูดคุยขอความร่วมมือและสร้างความภาคภูมิใจในการพัฒนาบ้านเกิดของตนเอง

    ◦ มี "คนหัวใจเพชร" ซึ่งเป็นบุคคลต้นแบบที่เลิกอบายมุขได้สำเร็จ และครอบครัวต้นแบบที่เข้มแข็ง เป็นกำลังสำคัญในการรณรงค์และให้คำแนะนำ

    ◦ เป็นแหล่งเรียนรู้ที่รับนักศึกษาจากหลายสถาบันเข้ามาฝึกงาน ซึ่งช่วยเสริมศักยภาพในการเก็บข้อมูลและให้ความรู้แก่ชุมชน

 

ด้านความสำเร็จที่โดดเด่น:

การได้รับรางวัลและการยอมรับ:

    ◦ ได้รับรางวัล "ดีเลิศ" ระดับจังหวัด และเป็นตัวแทนจังหวัดนครศรีธรรมราชในการประกวด "ตำบลเข้มแข็ง" ซึ่งอยู่ระหว่างการประกวดในระดับภาคและระดับประเทศ

    ◦ ได้รับถ้วยพระราชทาน จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโครงการตำบลเข้มแข็ง

    ◦ ได้รับรางวัลระดับประเทศจากการเป็น "เมืองปลอดคาร์บอน"

    ◦ ได้รับการยอมรับว่าเป็น "ต้นแบบ" ที่มีหน่วยงานและสถาบันต่างๆ เข้ามาศึกษาดูงาน

 

• ด้านการลดอบายมุขและการส่งเสริมสุขภาพ:

    ◦ การขับแก้ไขปัญหาในโรงเรียน: มีข้อมูลการลดลงอย่างชัดเจนของการใช้บุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้าในนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนชั้น ป.6 ที่ลดลงจากเกือบ 30 คน เหลือไม่ถึง 5 คน มีการตรวจปัสสาวะนักเรียน 100% โดย ไม่พบสารเสพติด และได้รับรางวัลโรงเรียนสถานศึกษาสีขาว

    ◦ ได้รับความร่วมมือของร้านค้า: ร้านค้าบริเวณใกล้โรงเรียนและในตำบล ให้ความร่วมมือหยุดจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า และสินค้าผิดกฎหมายอื่นๆ ให้กับเด็กและเยาวชนอย่างเคร่งครัด หลังจากมีการประกาศธรรมนูญและการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่

    ◦ ในส่วนของชุมชน: ไม่พบเห็นผู้ดื่มสุราหรือกลุ่มคนนั่งดื่มกินที่หน้าร้านค้าตามสองฝั่งถนน ทำให้ชุมชนมีความสงบสุขและปลอดภัย

    ◦ ด้านการบำบัดและป้องกัน: มีการทำงานอย่างเป็นระบบในการคัดกรอง บำบัด และติดตามผู้ป่วยสารเสพติด รวมถึงการสกัดนักดื่มหน้าใหม่ โดย รพ.สต. และ อสม.

    ◦ สร้างครอบครัวเข้มแข็ง: การรณรงค์ และการมีต้นแบบทำให้หลายครอบครัวลดหรือเลิกอบายมุข ส่งผลให้ ครอบครัวมีความอบอุ่นขึ้น ลดความทะเลาะเบาะแว้ง และไม่มีผู้สูงอายุถูกทอดทิ้งหรือเด็กกำพร้าจากปัญหาสารเสพติด ครัวเรือนในบ้านเกาะ ผ่านเกณฑ์ครัวเรือนสุขภาวะ

 

• ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว:

    ◦ มีการยกระดับการท่องเที่ยว โดยใช้เรื่องราวของชุมชนที่ปลอดภัย ปลอดอบายมุข มาเป็นจุดขาย ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกมั่นใจในความปลอดภัย

    ◦ มีการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เช่น โฮมสเตย์ และกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น เพิ่มมูลค่าสินค้าและส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน

    ◦ คนรุ่นใหม่กลับมาพัฒนาธุรกิจในท้องถิ่น เช่น ร้านกาแฟและร้านอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่เน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

 

• ด้านการจัดการความเสี่ยงด้านสุขภาพอื่นๆ:

    ◦ มีการคัดกรองและเฝ้าระวังการใช้สารเคมีในเกษตรกรทุกปี

    ◦ มีการควบคุมโรคติดต่ออย่างดี เช่น ปีที่ผ่านมาไม่พบผู้ป่วยไข้เลือดออก และมีโครงการบ้านเรือนสะอาด ปลอดโรค

    ◦ มีการจัดการขยะ และส่งเสริมให้แต่ละครัวเรือนคัดแยกขยะ ซึ่งส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม

 

การขับเคลื่อนโครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ อย่างไร และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเกินความคาดหวังเพียงใด?

จากการเก็บข้อมูลพบว่าโครงการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพในพื้นที่ตำบลบ้านเกาะ จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับความร่วมมืออย่างเข้มแข็งจากหลากหลายภาคส่วน ส่งผลให้เกิดความสำเร็จและผลลัพธ์ที่เกินความคาดหวัง

ซึ่งการได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ มีดังนี้

• สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นหน่วยงานที่มาทำกิจกรรมงดเหล้าและอบายมุข ได้ให้การสนับสนุนโครงการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และยังได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดอบรมเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมผู้ที่มีอาการคลุ้มคลั่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเป็นวิทยากร นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการทำงานของนักศึกษาที่มาช่วยเก็บข้อมูล และสนับสนุนงบประมาณในเรื่องการแยกขยะ

โรงเรียนวัดเขาขุนพนม ได้เข้าร่วมลงนาม MOU ในปี 2566 และรับนโยบายจากทั้งระดับอำเภอ ตำบล และโครงการของโรงเรียนเอง โรงเรียนได้ส่งตัวแทนนักเรียนเข้ารับการอบรมเรื่องการงดเหล้า บุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า มีการทำวิจัยและโครงการต่อเนื่อง เช่น "เพื่อนช่วยเพื่อน" และ "สายสืบตัวน้อย" รวมถึงการให้สภานักเรียนเข้ามามีส่วนร่วมในการสอดส่องดูแลนักเรียนกลุ่มเสี่ยง นอกจากนี้ โรงเรียนยังได้ร่วมมือกับตำรวจและท้องถิ่นในการตรวจปัสสาวะนักเรียน และมีการนำประเด็นสารเสพติดเข้าสู่แผนปฏิบัติการประจำปี (ID Plan)

ท้องที่และท้องถิ่น (กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจ และ อบต.) ได้ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ โดยมีท่านกำนันและผู้ใหญ่บ้านเป็นแกนนำ มีการตั้ง "ศูนย์ลดปัจจัยเสี่ยง" และจัดทำ MOU กับภาคส่วนต่างๆ มีการแต่งตั้ง "ชุดเฉพาะกิจประจำตำบลบ้านกอก" ตามคำสั่งนายอำเภอ เพื่อออกตรวจร้านค้าที่ทำผิดกฎหมาย การทำงานร่วมกันนี้ทำให้โรงเรียนสามารถประสานงานได้ง่ายขึ้น และมีการจัดตั้งชุด 191 ในการดูแลปัญหาเฉพาะหน้า การทำงานร่วมกับตำรวจและท้องถิ่นทำให้เด็กเกิดความยำเกรงและเข้าถึงสารเสพติดได้ยากขึ้น ผู้ใหญ่บ้านยังกล่าวถึง "นครศรีโมเดล" ซึ่งเป็นโครงการคัดกรองสารเสพติดในครอบครัว ที่สอดคล้องกับ "บ้านกอกโมเดล" ที่ทำอยู่ก่อนแล้ว

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) ทำหน้าที่เป็นภาคีเครือข่ายที่สำคัญ เข้าร่วมทุกกิจกรรมและทุกขั้นตอน มีบทบาทในการประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ สำรวจข้อมูลผู้ใช้สารเสพติด และบูรณาการกับการป้องกันโรคและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ มีการใช้ อสม. ในการสำรวจข้อมูลครัวเรือนและร้านค้า จัดการระบบสุขภาพแบบองค์รวม ดูแลทั้งเรื่องอาหาร อารมณ์ การออกกำลังกาย และสารเสพติด รวมถึงการบำบัดและติดตามผู้ป่วยยาเสพติด

อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) มีบทบาทสำคัญในการเป็น "แกนนำสุขภาพ" และมีข้อมูลครัวเรือนในมือ มีการสำรวจและค้นหาผู้เลิกเหล้า/บุหรี่ ร่วมลงนามในธรรมนูญชุมชน และร่วมสำรวจร้านค้าเพื่อขอความร่วมมือไม่ขายสิ่งผิดกฎหมายให้เด็กและเยาวชน นอกจากนี้ยังร่วมในชุดติดตามผู้รับการบำบัดยาเสพติดในโครงการ "นครศรีโมเดล"

สมาคมเพื่อนเยาวชนและพัฒนาสังคมภาคใต้ตอนบน มีบทบาทในการจัดค่ายอบรมเยาวชน เพื่อให้ความรู้เรื่องโทษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงสอนเรื่อง "ความเท่าทัน" ในการโฆษณา และ "ทักษะการปฏิเสธ" ให้กับเด็ก ค่ายเหล่านี้จัดขึ้นทั่ว 7 จังหวัด และมีการติดตามผลผลิตของค่ายที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและกลับมาเป็นรุ่นพี่ช่วยสอนน้องๆ

ชุมชนและประชาชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่และมีความสัมพันธ์แบบเครือญาติ ทำให้การพูดคุยและขอความร่วมมือเป็นไปได้ง่าย ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการสอดส่องดูแล และร้านค้าให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายมากขึ้น

ครอบครัวตัวอย่างและบุคคล "คนหัวใจเพชร" เลิกเหล้า และบุหรี่ได้อย่างเด็ดขาด เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้หลานและเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างให้กับชุมชน ปัจจุบันมี "คนหัวใจเพชร" 10 คน และมีครอบครัวตัวอย่างในทุกหมู่บ้าน

ธุรกิจและผู้ประกอบการ มีการรวมกลุ่มกันเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ โดยเน้นความสะอาดและความปลอดภัย

• สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ที่เป็นฝ่ายติดตามการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งธรรมนูญสถานศึกษา ซึ่งมองว่าโรงเรียนเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการรับรู้และนำไปสู่การปฏิบัติในหมู่นักเรียน 

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเกินความคาดหวัง:

• ลดปัญหาการใช้สารเสพติดในโรงเรียนและชุมชน:

    ◦ โรงเรียนวัดเขาขุนพนมได้รับรางวัล "โรงเรียนสถานศึกษาสีขาว"

    ◦ อัตราการใช้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในนักเรียนชั้น ป.6 ลดลงอย่างเห็นได้ชัด 

    ◦ ร้านค้าบริเวณรอบโรงเรียนและในตำบลไม่จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและสิ่งผิดกฎหมายให้เด็ก

    ◦ พื้นที่ตำบลไม่มีแหล่งอบายมุข หรือแหล่งบันเทิงที่ส่งผลให้เกิดกลุ่มเสี่ยง

ยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจ:

    ◦ ประชาชนมีสุขภาพดีขึ้น และครอบครัวมีความอบอุ่นมากขึ้น

    ◦ ปัญหาอุบัติเหตุจากการใช้สารเสพติดลดลง

    ◦ มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ ทำให้รายได้เฉลี่ยของครัวเรือนสูงขึ้น

    ◦ ไม่มีปัญหาไข้เลือดออกตลอด 1 ปีที่ผ่านมา และปลอดโรคพิษสุนัขบ้า

    ◦ มีการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ที่มีนักศึกษามาฝึกงาน ซึ่งเป็นจุดแข็งในการจัดการคนและการพัฒนาชุมชน

ความเข้มแข็งของชุมชนและความร่วมมือ:

    ◦ การมีธรรมนูญชุมชนและ "บ้านเกาะโมเดล" ถือเป็นหัวใจสำคัญที่เชื่อมโยงภาคีเครือข่ายทุกส่วนเข้าด้วยกันอย่างเหนียวแน่น

    ◦ ทุกภาคส่วนทำงานในทิศทางเดียวกันและมองภาพเดียวกัน 

    ◦ ชุมชนมีความตระหนักในการรักษาสิ่งแวดล้อม และภูมิศาสตร์ของพื้นที่เอื้อต่อการพัฒนาด้านต่างๆ

    ◦ คนในชุมชนกลับมาพัฒนาบ้านเกิดของตนเองมากขึ้น

 

อะไรคือปัจจัยหลักที่ทำให้ "บ้านเกาะโมเดล" ประสบความสำเร็จ และสามารถคงความยั่งยืนในระยะยาว?

 

   1.การมีส่วนร่วมและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง

    ◦ โมเดลนี้เริ่มต้นจากการรวมตัวของ ภาคีเครือข่ายกว่า 11 หน่วยงาน ที่ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), ผู้นำท้องถิ่น (กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน), โรงเรียน (โดยเฉพาะโรงเรียนวัดเขากุนพนม), โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.), อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.), ตำรวจ, ภาคเอกชน (ร้านค้า), สมาคมเพื่อนเยาวชนและพัฒนาสังคมภาคใต้ (NGO), และชุมชน ซึ่งเป็นความร่วมมือในแบบเชื่อมประสานทุกภาคส่วน และมีบทบาทหน้าที่ชัดเจน

     2. วัฒนธรรม และลักษณะเฉพาะของชุมชน:

    ◦ ความเป็น "เครือญาติ" หรือ "พี่น้อง" ทำให้ผู้นำและชาวบ้านรู้จักกันดี สามารถพูดคุย เจรจา และขอความร่วมมือกันได้ง่าย

    ◦ ความภาคภูมิใจในท้องถิ่น ทำให้คนในชุมชนมีความตั้งใจในการพัฒนาและรักษาชื่อเสียงของตำบล

    ◦ มี "คนหัวใจเพชร" หรือบุคคลต้นแบบที่เลิกเหล้า/บุหรี่ได้จริง ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจและตัวอย่างที่ดีให้กับคนอื่นๆ ในชุมชน

    ◦ สถาบันครอบครัวที่เข้มแข็ง ผู้ปกครองให้ความร่วมมือในการดูแลบุตรหลาน ทำให้ตำบลบ้านเกาะไม่มีปัญหาเด็กถูกทอดทิ้ง หรือผู้สูงอายุถูกละเลย

    3. การเชื่อมโยงกับการส่งเสริมเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว

    ◦ มีการนำผลความสำเร็จของการลดปัจจัยเสี่ยงมา ยกระดับเป็นจุดเด่นของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และธรรมชาติ ที่เน้นความปลอดภัย ความสะอาด และความเป็นเจ้าบ้านที่ดี

    ◦ การพัฒนาปฏิทินการท่องเที่ยว และการส่งเสริมสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

    ◦ ภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวย ตำบลตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สงบเงียบ ห่างจากสถานบันเทิง แต่ก็เข้าถึงเมืองได้สะดวก ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะกับการพักผ่อนและหลีกหนีจากอบายมุข

   4.การพัฒนาบุคลากรและการจัดการความรู้

    ◦ อสม. ได้รับการพัฒนาศักยภาพให้สามารถใช้เทคโนโลยีและเก็บข้อมูลได้ดีขึ้น

    ◦ การเป็น "ศูนย์เรียนรู้" ดึงดูดนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ เข้ามาฝึกงานและใช้ความรู้พัฒนาชุมชน ซึ่งเป็นการเสริมกำลังและองค์ความรู้ให้แก่พื้นที่

    ◦ การพัฒนาแกนนำเยาวชนรุ่นต่อรุ่น ที่กลับมาช่วยพัฒนาชุมชนและเป็นพี่เลี้ยงให้รุ่นน้อง   

   5.ความยั่งยืนผ่านการวางแผนและเป้าหมายที่ชัดเจน

    ◦ มีการ วางแผนงานประจำปี (PA/ID Plan) ที่รวมเรื่องการป้องกันสารเสพติดเป็นวาระหลัก

    ◦ การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น การทำให้โรงเรียนประถมปลอดบุหรี่ไฟฟ้า

    ◦ ความมุ่งมั่นที่จะ สร้างความยั่งยืนโดยฐานรากของชุมชน และมีการทำแผนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

   6.การสนับสนุนจากองค์กรภายนอก และภาคีเครือข่ายอื่นๆ

    ◦ สสส. ให้การสนับสนุนโครงการและงบประมาณ

    ◦ องค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ในพื้นที่ช่วยประชาสัมพันธ์และสนับสนุนกิจกรรม เช่น การตรวจสภาพอากาศและคุณภาพน้ำ

 

"บ้านเกาะโมเดล" ประสบความสำเร็จเกินความคาดหวังที่วางไว้ และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการบูรณาการงานด้านสุขภาพเข้ากับการพัฒนาชุมชนในทุกมิติ โดยมี "ธรรมนูญชุมชน" เป็นหัวใจสำคัญที่เชื่อมโยงทุกภาคีให้ทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งและขับเคลื่อนด้วยจุดแข็งทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และภูมิศาสตร์ของชุมชน ผนวกกับการมีผู้นำที่เข้มแข็ง และ ประชาชนที่ตระหนักและให้ความร่วมมือ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของตำบลอย่างยั่งยืนที่แท้จริง

 

 

เพจFB : องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเกาะ  https://web.facebook.com/abtbankoh
http://www.bankoh.go.th/ 

cr.ภาพปก www.konlongtang.com

NHCO Q&A