สูงวัยในคอนโด ยามวิกฤตใครช่วยใคร ?


VIEW: 88   SHARE: 1    

 

เรื่อง : เตชิต ชาวบางพรหม

ช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ เกิดเหตุการณ์เขย่าเมือง บรรดาตึกสูงระฟ้า อยู่ในสภาวะวิตกกังวล จิตใจไม่ปลอดโปร่งเหมือนก่อน อาคาร สตง. ถล่ม โศกนาฏกรรมของภัยธรรมชาติครั้งนี้ สังคมเกิดคำถามมากมาย นิติบุคคล และชาวคอนโดสูงต่างรวมตัวกันในกลุ่มไลน์ นัดหมายประชุมด่วน กับการอัปเดตสถานการณ์ที่พักอาศัยของตน ว่าเราจะกลับเข้าสู่อาคารได้เมื่อไร ...

จากหลายวงการสนทนา เพื่อนำไปสู่การพัฒนาแนวทางหรือข้อเสนอเชิงนโยบาย ออกแบบมาตรการเพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พบว่า คอนโดสูง อาคารชุด หมู่บ้านจัดสรร โดยส่วนใหญ่ ภาครัฐไม่สามารถเข้าไปให้บริการ หรือสำรวจข้อมูลได้โดยตรง ดังนั้น การจัดการในภาวะวิกฤตจึงเป็นบทบาทของกรรมการ และนิติฯ

 

คำถามสำคัญคือ ในบรรดาคอนโด อาคารชุด หมู่บ้านจัดสรร มีคนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองในภาวะวิกฤติอยู่เท่าไร นั่นหมายถึงประชากรกลุ่มเฉพาะ ผู้สูงอายุ คนพิการ และเด็ก หากเหตุการณ์ซ้ำร้ายไม่มีผู้ปกครอง หรือผู้บริบาลอยู่ด้วยแล้ว ใครช่วยใคร ?

มีความพยายามในการนำอาสาสมัครสาธารณสุขต่างๆ เข้าเยี่ยมหมู่บ้าน คอนโด อาคารชุด แต่ก็ติดด้วยเงื่อนไขของพื้นที่ส่วนบุคคล และประชาชนที่อาศัยคอนโดส่วนใหญ่มักเป็นพนักงานออฟฟิศ ออกเช้ากลับค่ำ การมีส่วนร่วมแบบ “บ้านเรือนเคียงกัน แอบมองทุกวันเลยเชียว” แบบท้องถิ่นอื่นๆ ในต่างจังหวัด จึงหาได้ยากในเมืองใหญ่ 

มีความเป็นไปได้ไหม สำหรับผู้สูงอายุ ที่อยู่ตัวคนเดียวในคอนโด จะรวมตัวกัน เสริมสร้างความรู้ความสามารถผนึกกำลังกับนิติของคอนโด หมู่บ้านนั้น แปลงสถานะโดดเดี่ยว เป็น วัยเก๋าคุมคอนโด หรือ เป็นไปได้ไหม จะมีอาสามัครในคอนโดสูง ยกระดับชุมชนคอนโดสูงให้เข้มแข็ง เป็นหูเป็นตาซึ่งกันและกัน

ยังไม่นับรวมถึงสถานที่ Palliative care ดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิงในคอนโดสูง หากมองวิกฤติครั้งนี้ให้เป็นโอกาส หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนคงต้องลงทุนร่วมกันในการกำหนดนโยบายสาธารณะเฉพาะคอนโด อาคารชุด หมู่บ้านจัดสรร ให้มีกลไกการทำงาน มีมาตรการ สร้างการมีส่วนร่วม เสริมสร้างระบบรองรับภาวะวิกฤตต่างๆ เพื่อเป็นหน่วยในงานเชื่อมโยงกับความช่วยเหลือภายใน เมื่อเราไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้

 

การดูแลผู้สูงอายุและกลุ่มคนเปราะบางในคอนโด 

แผ่นดินไหว คาดการณ์ล่วงหน้าได้ยาก หรือ สงครามกลางเมืองทุกคนก็ต่างเอาตัวรอด เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก เนื่องจากข้อจำกัดด้านพื้นที่และการเข้าถึงความช่วยเหลือ ต่อไปนี้เป็นแนวทางที่อาจเป็นประโยชน์: 

1. การเตรียมพร้อมล่วงหน้า: 

● แผนฉุกเฉินส่วนบุคคล:

○ จัดทำแผนฉุกเฉินส่วนบุคคลที่ระบุข้อมูลสำคัญ เช่น โรคประจำตัว ยาที่ต้องใช้ ที่อยู่ของญาติหรือผู้ดูแล เบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน 

○ เตรียมชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินที่จำเป็น เช่น อาหารแห้ง น้ำดื่ม ยาสามัญประจำบ้าน ไฟฉาย วิทยุสื่อสาร 

● การสื่อสารและเครือข่าย: 

○ สร้างเครือข่ายกับเพื่อนบ้านในคอนโด เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกันในช่วงวิกฤติ 

○ แลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อฉุกเฉินกับเพื่อนบ้านและผู้ดูแลอาคาร 

○ เรียนรู้ช่องทางการสื่อสารฉุกเฉิน เช่น วิทยุสื่อสาร หรือแอปพลิเคชันแจ้งเตือนภัย

● การเข้าถึงและการเคลื่อนย้าย:

○ ตรวจสอบทางออกฉุกเฉินและเส้นทางอพยพของอาคาร 

○ ฝึกซ้อมการอพยพฉุกเฉินเป็นประจำโดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว 

○ พิจารณาการติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือ เช่น เก้าอี้เลื่อน หรืออุปกรณ์พยุงตัว เพื่อช่วยในการเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุและผู้พิการ 

 

2. การรับมือในช่วงวิกฤต: 

● การประเมินสถานการณ์: 

○ ติดตามข่าวสารและข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อประเมินสถานการณ์และรับทราบแนวทางการปฏิบัติ 

○ ตรวจสอบความเสียหายของอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวก 

● การดูแลผู้สูงอายุและกลุ่มคนเปราะบาง:

○ จัดลำดับความสำคัญในการช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และเด็กเล็ก 

○ ให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรคอย่างเพียงพอ

○ ดูแลสุขภาพจิตใจและให้กำลังใจแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์

○ ให้ความช่วยเหลือด้านการเคลื่อนย้ายสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ

● การประสานงานและความร่วมมือ:

○ ประสานงานกับผู้ดูแลอาคาร หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรบรรเทาสาธารณภัย เพื่อขอรับความช่วยเหลือ

○ ร่วมมือกับเพื่อนบ้านในการช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน

 

3. การฟื้นฟูหลังวิกฤต: 

● การประเมินความเสียหาย: 

○ ตรวจสอบความเสียหายของทรัพย์สินและสิ่งอำนวยความสะดวก

○ รายงานความเสียหายต่อผู้ดูแลอาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

● การฟื้นฟูสภาพจิตใจ: 

○ ให้การสนับสนุนด้านจิตใจแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์

○ เข้าร่วมกิจกรรมฟื้นฟูสภาพจิตใจที่จัดโดยหน่วยงานต่างๆ

● การปรับปรุงแผนฉุกเฉิน: 

○ ทบทวนและปรับปรุงแผนฉุกเฉินให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

○ เรียนรู้บทเรียนจากเหตุการณ์ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับวิกฤตในอนาคต

 

ข้อควรระวังเพิ่มเติม: 

● ในกรณีแผ่นดินไหว ควรหลบใต้โต๊ะหรือเฟอร์นิเจอร์ที่แข็งแรง และอยู่ห่างจากหน้าต่าง

● ในกรณีสงครามกลางเมือง ควรหลบในที่ปลอดภัย และปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

 

NHCO Q&A