แปลนอีโคฯเลื่อนผลิตไฟฟ้าแจงแค่อุบัติเหตุไม่ได้ระเบิด | สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556
บ.แปลนอีโคเอ็นเนอร์ยี่ จ.ตรัง ยัน โรงไฟฟ้าชีวมวล 4.9 เมกะวัตต์ ไม่ได้ระเบิดตามข่าว แค่อุบัติเหตุจากความประมาท ส.อ.ท.กลุ่มพลังงานทดแทนเตรียมยกเครื่องมาตรการเซฟตี้ โรงไฟฟ้าทั้งกลุ่ม
รายงานข่าวจากบริษัท แปลนอีโคเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ผู้พัฒนาโรงงานผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล กำลังผลิต 4.9 เมกะวัตต์ ในพื้นที่อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ที่ใช้ราก-ปีกไม้ และเศษไม้ยางพารา เป็นเชื้อเพลิงเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการเผาไหม้ มีกระแสข่าวว่าเกิดเหตุระเบิดจนมี ผู้เสียชีวิตนั้น ทางบริษัทได้ออกมายืนยันว่าไม่มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นการประมาทของทีมงานที่อยู่ในระหว่างขึ้นไปแก้ไขการติดขัดของไม้ที่บริเวณปากประตูไม้ด้านบนของเตาเผาไหม้ที่สูงจากพื้นดินประมาณ 15 เมตร แต่พนักงานที่ขึ้นไปด้านบนได้เป็นลมหมดสติเพราะสูดแก๊สที่ต้องมีการปล่อยออกปล่องด้านบน
หลังจากนั้น นายไมเคิล คอปปินส์ วิศวกรควบคุมงานชาวนิวซีแลนด์ของบริษัทรีนิวเวเบอร์พลัส ได้ตามขึ้นไปเพื่อช่วยเหลือแต่เกิดหมดสติตามไปเพราะสูดแก๊สเช่นกัน หลังจากนั้น วิศวกรและทีมงานด้านล่างได้ขึ้นไปที่จุดเกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือนำผู้หมดสติทั้งหมดมายังด้านล่าง และได้ส่งผู้บาดเจ็บรวม 4 คนไปยังโรงพยาบาลย่านตาขาว ปรากฏว่านายไมเคิล คอปปินส์ วิศวกรควบคุมงานชาวนิวซีแลนด์ และนายรถ สิงห์ดำ ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนเจ้าหน้าที่อีก 2 คนซึ่งเป็นคนไทย ได้แก่ นายชลิต สมนอก และนางพรสิน สมนอก ได้รับการปฐมพยาบาลช่วยชีวิต และพ้นขีดอันตรายแล้ว ขณะนี้บริษัทผู้รับเหมาและบริษัทผู้ออกแบบและผลิตอยู่ในระหว่างการส่งเจ้าหน้าที่ ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเหตุครั้งนี้
สำหรับโรงงานดังกล่าวเป็นเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับกระบวนการผลิตไฟฟ้าเป็นระบบแก๊สซิฟิเคชั่น ซึ่งเป็นเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนที่ได้รับการยอมรับจาก ทั่วโลกว่าเป็นเทคโนโลยีที่สะอาด ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล มีมาตรการความปลอดภัยทุกขั้นตอนของการผลิต ติดตั้ง และดำเนินการมีมาตรฐานระดับสากล
ด้านนายพิชัย ถิ่นสันติสุข ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวทำให้กลุ่มต้องเพิ่มกฎระเบียบให้กับโรงไฟฟ้าในกลุ่มพลังงานทดแทนมากขึ้น โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในทุกขั้นตอน เพราะเหตุการณ์ของโรงไฟฟ้าของบริษัทแปลนอีโคเอ็นเนอร์ยี่ เกิดขึ้นในช่วงทดสอบระบบของโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะในเรื่องความปลอดภัยของพนักงานที่จะต้องเข้มงวดมากขึ้น
ระบบแก๊สซิฟิเคชั่นของโรงไฟฟ้านี้ปลอดภัยมาก และได้รับการยอมรับ จากทั่วโลก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเพราะ Human Error เจ้าหน้าที่ไม่ได้ใส่หน้ากากเพื่อ ป้องกันแก๊ส แม้ว่าโรงไฟฟ้าของแปลน อีโคเอ็นเนอร์ยี่จะไม่ได้อยู่ในกลุ่มพลังงานทดแทน ส.อ.ท. แต่นับเป็นกรณีศึกษาที่ทั้งกลุ่มจะต้องเพิ่มเติมกฎระเบียบด้านความปลอดภัยมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดการ สูญเสียตามมาอีก
ด้านนายพโยมสฤษฎ์ ศรีพัฒนานนท์ ผู้อำนวยการกองวางแผนแหล่งผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในฐานะผู้รับซื้อไฟฟ้าจากโครงการ กล่าวว่า โรงไฟฟ้าดังกล่าวถึงกำหนดที่จะต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ในวันที่เกิดเหตุการณ์ และล่าสุดได้ขอเลื่อน เข้าระบบออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด โดยตามเงื่อนไขสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสามารถทำได้ โดยจะผ่อนปรนให้โรงไฟฟ้าดังกล่าวไปอีก 60 วัน นับจากวันที่ขอเลื่อน ถือว่าไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก เพราะกำลังผลิตไฟฟ้าดังกล่าวไม่เกิน 5 เมกะวัตต์เท่านั้น ทั้งนี้หากว่าโรงไฟฟ้าเลื่อนเข้าระบบเกิน 60 วันที่กำหนดจะต้องเสียค่าปรับตามสัญญา
รายงานเพิ่มเติมว่า โรงไฟฟ้าชีวมวล ดังกล่าว อยู่ในแผนพัฒนาพลังงานทดแทน ของกระทรวงพลังงานที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพื่อพึ่งพาเชื้อเพลิงที่มีอยู่ในประเทศ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และที่สำคัญลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ
บรรยายใต้ภาพ
แค่อุบัติเหตุ - โรงไฟฟ้าชีวมวลของ บ.แปลนอีโคเอ็นเนอร์ยี่ การก่อสร้างและทดสอบระบบเกือบ 100% ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุเจ้าหน้าที่สูดแก๊สเข้าไปจนเสียชีวิต ขอเลื่อนผลิตไฟฟ้าเข้าระบบออกไปอย่างไม่มีกำหนด
 

รูปภาพ