CRภาพ :mgronline

--- การกีฬา ในสมัชชาอนามัยโลก ---

“โลกของการกีฬา พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่จะร่วมสร้างชุมชนสุขภาวะในทุกที่” คุณโธมัส บาร์ค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ขึ้นกล่าวปาฐกถาที่งานสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ ๗๗ ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา คุณบาร์คยังกล่าวอีกว่า “กีฬาคือเครื่องมือเสริมสร้างสุขภาพกายและสุขภาพจิตของประชาชน ที่ราคาถูก แต่ได้ผลตอบแทนเกินคาด เราจะนำกีฬาไปทุกที่ที่มีประชาชนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นระดับชุมชนท้องถิ่นก็ตาม”

คณะกรรมการโอลิมปิกสากล และ องค์การอนามัยโลก (WHO) ทำข้อตกลงความร่วมมือด้วยกัน ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๖๕ และจะสิ้นสุดในปี พ.ศ. ๒๕๖๘ โดยทั้งสององค์กรริเริ่มโครงการ “กีฬาชุมชนและความร่วมมือด้านสุขภาพ” เช่น จัดเทรนให้กับโค้ช ครู และผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพในชุมชน หรือปรับสถานที่ต่างๆ เช่น โรงเรียน สถานที่ทำงาน ศูนย์อนามัย ให้เป็นสถานที่ออกกำลังกาย เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงกีฬาได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างคณะกรรมการโอลิมปิกชาติ กับหน่วยงานด้านสุขภาพระดับท้องถิ่น และองค์กรกีฬาของประเทศ

ปาฐกถาของประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล สอดคล้องกับมติสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ ๗๗ หัวข้อ “สร้างความเข้มแข็งให้กับสุขภาพและคุณภาพชีวิต ผ่านมหกรรมกีฬา” ที่เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ องค์การอนามัยโลก และองค์กรนานาชาติที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนให้การจัดมหกรรมกีฬาต่างๆ เช่น โอลิมปิก ฟุตบอลโลก คำนึงถึงเรื่องกิจกรรมทางกาย อากาศสะอาด น้ำสะอาด และอาหารที่ดีต่อสุขภาพด้วย และเรียกร้องให้มีการควบคุมการตลาดสินค้าที่ไม่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงบุหรี่และยาสูบ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในมหกรรมกีฬาให้เป็นไปตามกรอบและหรือแผนปฏิบัติการที่องค์การอนามัยโลกวางไว้

--- โอลิมปิก กับเหล้า เบียร์ ---

การแข่งขันกีฬา เสียงเชียร์ และเหล้าเบียร์ ดูเป็นเรื่องคุ้นชินทั้งในประเทศไทยและนานาประเทศ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เริ่มหายไปจากการแข่งขันโอลิมปิกเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ เมื่อครั้งจัดโอลิมปิกฤดูร้อน ที่โตเกียว ตามมาด้วย โอลิมปิกฤดูหนาว ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน พ.ศ. ๒๕๖๕  ซึ่งโควิด-19 ได้ทำให้มาตรการงดการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในการแข่งขันกีฬาสามารถบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดโอลิมปิกที่ปารีสปีนี้ มาตรการดังกล่าวก็ยังคงดำเนินต่อไป ทั้งนี้เพราะความเข้มแข็งของกฎหมายประเทศฝรั่งเศส (Evin’s Law) ที่กำหนดห้ามขายและโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเขตสนามกีฬา เว้นแต่เป็นไปเพื่อการต้อนรับ ดังนั้น เฉพาะแขก VIP ของโอลิมปิกเท่านั้น ที่ได้รับเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะหมดไปจากการแข่งขันโอลิมปิกถาวรหรือไม่ คงต้องติดตามดูในโอลิมปิก พ.ศ. ๒๕๖๙ และ ๒๕๗๑ ต่อไป แต่ที่รู้มาว่า บริษัทเบียร์ AB InBev จากประเทศเบลเยียม จะกลับมาเป็นสปอนเซอร์ในการแข่งขันโอลิมปิกในอีก ๒ ปีข้างหน้า เพราะสายสัมพันธ์ที่มีกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากลอย่างยาวนานกว่า ๔๐ ปี

--- สปอนเซอร์ยักษ์ใหญ่ของโอลิมปิก กับเสียงต่อต้าน ---

สปอนเซอร์ยักษ์ใหญ่ ที่ไม่เคยลบเลือนไปจากการแข่งขันโอลิมปิก คือ บริษัทน้ำอัดลม แต่ปีนี้ที่ปารีส สปอนเซอร์ใหญ่ เริ่มถูกตั้งคำถาม

นักรณรงค์และองค์กรด้านสุขภาพหลายแห่ง เริ่มตั้งคำถามต่อความรับผิดชอบของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล และการเป็นสปอนเซอร์ของบริษัทเครื่องดื่มนี้ ตั้งแต่หนึ่งปีก่อนจัดการแข่งขันโอลิมปิก เพราะการโฆษณาและขายเครื่องดื่มน้ำอัดลมและ/หรือเครื่องดื่มผสมน้ำตาลในการแข่งขันโอลิมปิก เป็นการสนับสนุนสินค้าที่ไม่ดีต่อสุขภาพ นำไปสู่ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ ๒  โรคหัวใจ น้ำหนักเกิน และโรค NCDs อื่นๆ รวมทั้งเป็นการสร้างขยะพลาสติกในช่วงการแข่งขันโอลิมปิกอีกด้วย

แคมเปญ "Kick Big Soda Out of Sport” ถูกเผยแพร่ในทุกช่องทางโซเชียลมีเดีย เรียกร้องให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล ถอนน้ำอัดลมออกจากสปอนเซอร์ นับว่าเป็นการเคลื่อนไหวใหญ่ในการแข่งขันโอลิมปิกปีนี้ที่ปารีส แม้แคมเปญนี้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ในการแข่งขันโอลิมปิก แต่เชื่อว่าในปีต่อไป แคมเปญเพื่อสุขภาพเช่นนี้ จะกลับมาอีกครั้ง